การวินิจฉัย

       1. ประวัติ  ควรถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่เกิด  ความสัมพันธ์กับประวัติระดู ประวัติ
การติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ยาคุมกำเนิดและการใช้ยาปฏิชีวนะ ลักษณะ
จำนวนของระดูขาวและมีอาการคันร่วมด้วยหรือไม่(1-4)
       2. การตรวจภายใน ระดูขาวในช่องคลอดพบลักษณะต่างกันตามสาเหตุดังตารางที่ 1(1)
ตารางที่ 1  สาเหตุต่างๆ ของตกขาวและการวินิจฉัยแยกโรค(1)
สี ลักษณะ จำนวน กลิ่น สาเหตุที่น่านึกถึง
ใส เมือก +ถึง++ ไม่มี -มีไข่ตก
-ได้รับเอสโตรเจน

มาก

-มีอารมณ์เครียด
ใสถึงขาวขุ่น เหนียว +ถึง++ อาจมีกลิ่นน้ำกรด -ปากมดลูกอักเสบ
-Bacterial

vaginosis
ชมพู เป็นน้ำเหลือง +ถึง++ ไม่มี -ได้รับเอสโตรเจน
น้อยไป

-Nonspecific

infection
เขียวปนเหลือง เป็นฟอง +ถึง+++ เหม็น -Trichomonas
vaginalis vaginitis
น้ำตาล เป็นน้ำ +ถึง++ กลิ่นอับ -ช่องคลอดอักเสบ
ปากมดลูกอักเสบ

ปากมดลูกตีบตัน

เยื่อบุโพรงมดลูก

อักเสบและสภาวะ

หลังได้รับรังสีรักษา
เทามีเลือดปน ไม่เหนอะหนะ +ถึง++++ เหม็นเน่า -มีแผลในช่องคลอด
ช่องคลดอดอักเสบ

จากเชื้อหนอง

ปากมดลูกอักเสบ

จากการใช้ 

Passary  หรือ

ผ้าอนามัย และ

เนื้องอกช่องคลอด

ปากมดลูก 

เยื่อบุโพรงมดลูก และหลอดมดลูก
ขาว เกาะเป็นแผ่น +ถึง++ เหม็นอับ -การติดเชื้อราของ
ช่องคลอด
       3. Wet vaginal smear ใช้น้ำเกลือ (Normal saline solution) ผสมกับระดูขาว
หยดบนสไลด์ ปิดด้วย Cover slip แล้วดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ตรวจหาเชื้อ Trichomonas
vaginalis  เชื้อรา และ Clue cell  ในรายที่สงสัยเชื้อราอาจใช้น้ำยา KOH 10%  เพื่อ
ละลายเซลล์อื่นๆ  ทำให้เห็นเชื้อราชัดขึ้น ถ้าเป็นเชื้อ Gardnerella vaginalis นอกจากพบ
Clue cell แล้ว เมื่อหยดน้ำยา KOH 10-12% ลงในระดูขาวจะมีกลิ่นคาวเหมือนปลาเน่า
(Fishy odor) เรียกว่า "Whiff test" หรือ Amine test" ให้ผลบวก( 5-7)
               การวินิจฉัยแยกโรค Bacterial vaginosis (เกิดจากเชื้อ Gardnerella
vaginalis), Candida vulvovaginitis หรือ Candidiasis หรือ Moniliasis (ร้อยละ 85
เกิดจากเชื้อ  Candida albicans) และ Trichomonas vaginitis หรือ Trichomoniasis
(เกิดจากเชื้อ Trichomonas vaginalis) ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยประมาณร้อยละ 95
ของการอักเสบในช่องคลอด(8-10) ได้แสดงไว้ในตารางที่ 2(7)
          4. ย้อมสีกรัมและเพาะเชื้อจากปากมดลูก
          5. พบเชื้อจากผลพลอยได้ของการตรวจเซลล์มะเร็งปากมดลูก 
          ในรายที่มีข้อบ่งอาจทำเพิ่มเติม คือ

          6. ตรวจหา pH ของช่องคลอด
          7. Colposcopy
        8. ตัดชิ้นเนื้อ เพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา
        9. ขูดมดลูก เพื่อการวินิจฉัย
       10. เจาะเลือด เพื่อตรวจหาซิฟิลิสหรือระดับภูมิคุ้มกันในโรคต่างๆ
ตารางที่ 2  การวินิจฉัยแยกโรคที่ทำให้เกิดระดูขาวผิดปกติที่พบบ่อย(7)
Bacterial vaginosis
Candida vulvovaginitis
Trichomonas vaginitis
อาการนำ ระดูขาวมีกลิ่นคาว เหมือนปลาเน่า คันบริเวณปากช่องคลอด
(รูปที่ 2)(8)
ระดูขาวสีเขียวปนเหลือง
ลักษณะ ใสถึงขาวขุ่น (รูปที่ 1)(8) ขาวเป็นก้อนคล้ายแป้ง
เกาะติดผนังช่องคลอด

(รูปที่ 3)(8)
เขียวปนเหลือง เป็นฟอง (รูปที่ 4)(8)
ปากมดลูกมีลักษณะเป็นจุดแดง

(รูปที่ 5)(8)
PH >4.5 <4.0 >4.5
Whiff test ให้ผลบวก ให้ผลลบ ให้ผลบวก/ลบ
การตรวจ
ทางกล้อง

จุลทรรศ์
Clue cell เม็ดเลือดขาวน้อย
(รูปที่ 6)(9)
Hyphae หรือ Pseudo
hyphae อาจพบ Buds

หรือ Spores ร่วมด้วย

(รูปที่ 7)(9)
Trichomonas vaginalis
เคลื่อนไหว เม็ดเลือดขาวมาก

(รูปที่ 8)(9)