จุฬาฯ

                                                                 5 กรกฎาคม 2545

เพื่อนๆที่รัก.....

                “พี่มานิตย์ ประพันธ์ศิลป์” เขียนไว้ในหนังสือรุ่นของเราว่า..............

                “โชคดีที่ได้อยู่รุ่น 23....ที่รุ่นอื่นอิจฉา!!”

                        คำพูดนี้ได้รับการขานรับอย่างเซ็งแซ่จากรุ่นต่างๆเมื่อได้เห็นผลงาน ได้เห็นการกระทำและกิจกรรมทั้งหลายอย่างต่อเนื่องของรุ่นเรา

                       Home Coming Day ครั้งที่ 2 ของแพทย์จุฬาฯรุ่น 23 เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เป็นการประกาศเกียรติคุณของรุ่นให้น้องพี่แพทย์จุฬาฯได้ประจักษ์ จนได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องในห้องประชุมเป็นระยะๆ

                       เริ่มจากการที่ “สุนัย”(ผู้ทุ่มเท อุทิศแรงกาย แรงใจทั้งหมดให้กับงานนี้) ได้กล่าวเปิดตัวแพทย์จุฬาฯรุ่น 23 จำนวนถึง 80 ท่าน(มากกว่าเจ้าภาพคือ แพทย์จุฬาฯรุ่น 33 เสียอีก) ลุกขึ้นยืนเต็มพื้นที่ซีกซ้ายของห้องประชุม สร้างความฮือฮาให้ชาวแพทย์จุฬาฯ เพราะไม่เคยปรากฏในงาน Home Coming Day มาก่อนเลยว่า จะมีคนมามากมายถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะการกลับคืนมาครั้งที่ 2 ของรุ่นต่างๆ

                      เสียงปรบมือได้ดังขึ้นเป็นระยะๆ ระหว่างที่สุนัยได้นำเสนอ Power Point ภายใต้หัวข้อเรื่อง..”จากวันนั้น....ถึงวันนี้....30 ปีที่ผันผ่าน” ที่หลายคนชมว่า เป็นภาพชีวิตที่มีทั้งสาระ ความประทับใจ ความพากภูมิใจ และความสนุกสนาน ครบทุกรสชาด ผมคิดว่า presentation อันคลาสสิคนี้ จะนำเสนอพวกเราอีกครั้งในการพบปะกันเร็วๆนี้

                     เสียงปรบมืออีกครั้ง เป็นการอภิปรายของพวกเรา 3 ท่าน ภายใต้ชื่อเรื่อง “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง” โดยเริ่มด้วย “ซุป”แล้วตามด้วย “โหงว” และปิดท้ายด้วย “พี่ธานี” ซึ่งพูดในแต่ละมุมมอง แต่ก็มีเอกภาพบนความหลากหลายนั้น

                     เสียงปรบมืออย่างกึกก้องทั้งห้องประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อรุ่นเราทำพิธีมอบเงินจำนวนถึง 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท!!!) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มา 55 ปี ที่จะมีศิษย์เก่ารุ่นไหนมอบเงินให้ “โรงเรียน” มากมายถึงขนาดนี้ ดังนั้น นอกจากเสียงปรบมือดังสนั่นแล้ว ยังมีเสียงฮือฮาตามมาอีกต่างหาก

                     ครับ ! ผมว่าพวกเรา......”แพทย์จุฬาฯรุ่น 23” ได้ทำหน้าที่ของ “ลูก” ทำหน้าที่ของ “ศิษย์เก่า” ได้สมบูรณ์ที่สุดที่จะสมควรได้รับการบันทึกเป็นตำนาน เป็นแบบอย่างของแพทย์จุฬาฯได้เป็นอย่างดี

                    งานภาคกลางคืนที่โรงแรมตวันนารามาดา มีพวกเราและครอบครัวมาร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 120 ชีวิต ครอบครองพื้นที่กว่าครึ่งห้อง crystal ซึ่งเป็นห้องจัดงาน มากกว่าอีก 3 รุ่น(3,13,33) มารวมกันเสียอีก มีพวกเรา 2 คน อุตส่าห์บินมาจากเมืองนอกเพื่อพบเพื่อนๆโดยเฉพาะ คือ “สุภรณ์” และ ”เจต”

                    น่าเหลือเชื่อว่า เพื่อนเราจำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้มาให้เพื่อนๆได้ชื่นชม ก็มาปรากฏกายในคืนวันนั้น อาทิ

● เกรียงศักดิ์

● เดือนเพ็ญ

● ตรีวรรณ

● ธีรพล

● นคร

● พรศรี

● มานิต หงส์ฯ

● พี่ยุพิน

● เยาวลักษณ์

● พี่รวมพร

● พี่วรเวช/วราภรณ์

● วัฒน์

● วิฑูรย์

● สมคิด

● สมปอง

● สาธิต

● พี่สุรดี

● ไสว

● อัฐนีวรรณ

● พี่อัมพร

● พี่อินทิรา

● พี่อารีย์

 

                       แทบทุกท่าน ให้ความเห็นตรงกันว่า ที่ไม่กล้ามาในการชุมนุมรุ่นครั้งก่อนๆเพราะกลัวเหงา กลัวว่าไม่มีคนคุยด้วย กลัวเก้อเขิน แต่หลังจากสัมผัสงานคืนวันนั้นแล้ว ความกลัวต่างๆสิ้นสลายไปโดยสิ้นเชิงด้วยเวลาอันรวดเร็ว ต่างพูดคุยทักทายจนเซ็งแซ่ไปหมด ขนาดผู้จัด(แพทย์จุฬาฯรุ่น 33) ไปขนนักร้องชั้นยอดอย่าง รวงทอง ชรินทร์ ฯลฯ ก็ไม่ค่อยได้สน ทุกคนแปรสภาพกันหมด กระชากวัยเข้าสู่บรรยากาศเดิมๆ มันส์จริงๆครับ และทุกคนต่างให้สัญญาใจร่วมกันว่า Meeting รุ่นคราวหน้าไม่พลาดแน่!!! เพราะอายุก็เลยมากว่าค่อนชีวิตแล้ว เพื่อนคงจะเหลือน้อยลงไปทุกวัน

                    “คุณครูปรีดา” ขวัญใจของรุ่นฯ ถูกรุมทึ้งเสียจนน่าสงสาร เพราะทุกคนอยากไปถ่ายรูปด้วย เล่นเอาอาจารย์เราโทรมลงถนัดตา รุ่นเราได้มอบหนังสือรุ่นพร้อมลายเซ็นของทุกๆคนให้กับอาจารย์ด้วย

                    รุ่นเราเองไม่ได้เอาเปรียบน้อง ได้มอบเงินให้ 50,000 บาท เพื่อ cover ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ทางโรงแรมคิดหัวละ 350 บาท) สำหรับงานในคืนวันนั้นด้วย

                     ตกดึก พิธีกรเชิญผมขึ้นไปจับฉลากแจกรางวัล ก็เหมือนหวยล็อค จับกี่รางวัลๆก็ได้ของแพทย์จุฬาฯรุ่น 23 ทั้งนั้น รวมทั้งรางวัลที่ 1(จี้เพชร) เป็นของธีรภัทร์ ซึ่งพอรับเสร็จภรรยาก็เก็บไว้เลย

                     มีพวกเรา 9 คน นอนค้างที่โรงแรมที่จัดงาน ได้แก่ สมจิตต์ พุ่มไทร, สมจิตต์ เรืองสินภิญญา (ที่นอนกับพี่อัมพร), สายสุนีย์, กนก, สุนัย, และ 3 เสือจากเชียงราย(วัฒน์, สมบูรณ์ศักดิ์ และวิฑูรย์) แต่นอนแยกถ้ำ(ห้อง)กัน

                     ใครๆเห็นหนังสือของรุ่นเราแล้ว ยกหัวแม่มือ(ทั้ง 2 ข้าง)ให้ทุกคน เท่าที่ทราบไม่เคยมีรุ่นไหนที่จะจัดทำได้ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์แบบและสวยงามเท่านี้มาก่อน ทั้งนี้ ต้องยกเครดิตทั้งหมดให้ “สุนัย” ที่ทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้กับหนังสือเล่มนี้ รวมทั้ง “สรรเพชญ” และพวกเราทุกคนที่ช่วยเรื่องรูปและเรื่องต่างๆมาโดยตลอด

                    คนเห็นหนังสือเล่มนี้แล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีเงินเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำหนังสือรุ่นที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ได้ ถ้าขาดผู้ที่ทุ่มเทให้กับหนังสือ และที่สำคัญคือถ้าขาดความร่วมมือร่วมใจของเพื่อนๆในการให้ข้อมูลและรูปต่างๆของเพื่อนๆ

                    ครับ ! เราได้สร้างมาตรฐานหรือ Bench Mark สำคัญให้เกิดขึ้นอีกแล้วในวงการแพทย์ รวมทั้งการที่รุ่นเราได้บริจาคเงินถึง 1 ล้านบาทให้กับบ้านของเรา ซึ่งผมพูดเสมอว่า “แพทย์จุฬาฯรุ่น 23” โดยเฉลี่ยแล้วไม่รวยเงินทอง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แต่เราทุกคนมีน้ำใจ และมีศรัทธาร่วมกัน ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้แพทย์จุฬาฯรุ่นต่างๆหันมาทบทวนบทบาทตัวเองกันครั้งใหญ่ว่า“เราทำอะไรให้แม่ของเรา(เหมือนกับที่รุ่น 23 ทำให้)แล้วหรือยัง?”

                   เมื่อวันพุธที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา สมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาฯได้จัดงานต้อนรับบัณฑิตใหม่ขึ้น และมีพิธีมอบโล่แก่ศิษย์เก่าดีเด่นที่ทำชื่อเสียงให้คณะ 6 ท่าน และ 5 ใน 6 ท่านเป็นแพทย์จุฬาฯรุ่น 23 ทั้งสิ้น คือ โหงว, ตุ๊ธงชัย, จรัญ และภิรมย์

** ต่อไปนี้ ขอเสนอสะเก็ดข่าวครับ !

*พี่ๆน้องๆชาวแพทย์จุฬาฯต่างเบื่อหน่าย และเข็ดขยาดแพทย์จุฬาฯรุ่น 23 เพราะกลับมา Home Coming Day แต่ละครั้งได้สร้าง standard ใหม่ๆ สร้าง Bench Mark ใหม่ๆในหลายๆเรื่อง ทำเอารุ่นต่างๆเครียดไปตามๆกัน....*เบื้องหลังความสำเร็จของเรา คือ สุนัย, พี่นิวัฒน์, สมจิตต์ เรืองฯ , รัถยา, ไพรัช-นิสิตา และพวกเราทุกๆคน....*ใครเอ่ย? เอาเงินเข้าบัญชีของรุ่นจำนวน 5,000 บาท เมื่อ 25 ม.ค. จากชุมพร และ 10,000 บาท จากสาขาย่อยธนาคารไทยพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 18 ก.พ. ช่วยบอกมาด้วยนะครับ...*แสดงว่าอายุ(ไม่น้อย)แล้วทั้งคู่ เมื่อ “เอี้ยง”(สมเดช) เจอ “สุภรณ์” ที่จุฬาฯในวันแรกของการจัดประชุมวิชาการ(จันทร์ที่ 24 มิ.ย.) ก็ทักว่า “เป็นยังไง สมจิตต์ เธอมาจากเมืองนอกเมื่อไร?” “สุภรณ์” ได้ฟังดังนั้นก็ตอบว่า “ชั้นพึ่งมาถึง แต่เธอเรียกชื่อฉันผิดนะ สมศักดิ์” ผมอยู่ในเหตุการณ์พอดีก็เลยบอกว่า เธอผิดทั้งคู่นั่นแหละ!! ...*พฤหัสฯที่ 27 มิ.ย.ก่อนวันงาน มีการจัดงานวันสุกดิบที่โรงแรมตวันนาฯ เพราะมีพวกเราเข้าพักถึง 9 ท่าน แต่ดันลืม กนกที่ควงภรรยาจากขอนแก่นมานอนรออยู่แล้ว...*”เกรียงศักดิ์”ยังมาในมาดวัยจ๊าบเช่นเดียวกับ “นคร”ที่ยังคงเอกลักษณ์ตนเองอย่างเหนียวแน่น หลังจากผ่านการเจ็บป่วยครั้งสำคัญในชีวิตมาได้....*”จักราวุธ” ติดงานด่วนมาไม่ได้แต่ก็ฝากใจทั้งดวงมาร่วมงาน เช่นเดียวกับเพื่อนๆอีกหลายคนที่โทรฯมาบอก อาทิ พี่กัลยาวดี พี่นิมิต พี่รักเกียรติ สุวิทย์ และสมศักดิ์...*เพื่อนๆคิดถึงพวกเราหลายคนที่ไม่ได้มาร่วมงานนี้อาทิ...กวี, กุลวี-อวยพร, พี่แฉะ, คำนูญ, เครือวัลย์, พี่ชนะ, ชวลิต, พี่ตุ๋ย, ทวีศักดิ์(ฮั้ว), ทีปวิทย์, นรา, พี่นิธิ-ไพฑูรย์, บวร ลิ้มฯ(ขับรถไม่ไหว), บัญญัติ, ประยงค์, พรชัย-อัสสนี, พิพัทธ์, พี่พิทยา, พี่ไมตรี, รัถยา, พี่เลอศักดิ์, วันชัย, วันดี, วิรัช,วิวัฒน์ ตรีฯ , ศิริชัย(พั้ง), พี่สมบูรณ์, พี่สนิท, พี่สันติ, พี่สายัณห์-สุวพีร์, สุพจน์, พี่สุมิตร, พี่อรรณพ, อภิชาต(โก๋), อุดม, พี่เอกชัย, พี่เอนก เป็นต้น ..... *ส่งใบจองว่ามาแน่ แต่มี complication กะทันหัน คือ พี่บุญเลิศ, พี่มณเฑียร, พี่พิษณุ, พี่เริงณรงค์, ประวิทย์(กร๊อง).... *แพคทีมอย่างเหนียวแน่น จากเหนือสุดสยาม(เชียงราย) ทั้งวัฒน์, วิฑูรย์, สมบูรณ์ศักดิ์ และสายสุนีย์(พร้อมชักชวนให้เพื่อนๆไปเชียงรายสักที) ขาดแต่พี่ละคิด & พี่ไพโรจน์ ….ภาพสมเด็จพระราชบิดาฯในหนังสือรุ่นของเราเป็นของ “มานิต หงส์” เพื่อรุ่นเราโดยเฉพาะ......มาสายดีกว่าไม่มา....”ส.ส.วรรณรัตน์” อุตส่าห์โดดประชุมมาร่วมงานตอนใกล้ค่ำ....”พี่สมเกียรติ” อุตส่าห์ขับรถจากนครสวรรค์มาร่วมงานภาคกลางวัน

                      .......ปีหน้าจะจัดชุมนุมรุ่นที่ไหนยังไม่แน่ชัด คิดว่าเราจะมี meeting พวกเราไปเร็วๆนี้อีกครั้ง เพื่อตกลงในเรื่องนี้

                     “สมภพ” ได้กรุณาสรุปค่าใช้จ่ายของรุ่นมาให้แล้ว ผมขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ

 

รัก

(ภิรมย์)