การเจริญเติบโต, พัฒนาการ และกายวิภาคของต่อมธัยรอยด์
ลักษณะทั่วไป: ต่อมธัยรอยด์ หนักประมาณ 15-20 กรัม มี 2 กลีบเชื่อมต่อกันด้วยส่วน isthmus
ลักษณะทางกล้องจุลทรรศน์: ประกอบด้วย กลุ่มของ follicle ซึ่งเป็น หน่วยโครงสร้างอวัยวะ ที่ทำ การสร้าง, เก็บ และ ปลดปล่อย ธัยรอยด์ ฮอร์โมน แทรก และล้อมรอบด้วยใยของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และหลอดเลือดฝอย อาจจ มี lymphocyte ปะปนอยู่ด้วย แต่น้อยมาก แต่ละ follicle เป็นถุงปลายตัน บุด้วย cuboidal cell เรียก follicular epithelium เซลล์ follicle เหล่านี้ ให้ผลบวกทางอิมมูโน ฮิสโตเคมี ต่อสารพวก low molecular weigh keratin สาร EMA และสาร Vimentin ระหว่าง เซลล์ follicles เหล่านี้ยังพบเซลล์พวกเอนโดคริน (endocrine cell) ที่มี ต้นกำเหนิดมาจาก neural creast เรียกว่า C-cell หรือ parafollicular cell ลักษณะเซลล์ เป็นรูปหลายเหลี่ยม หรือ รูปกระสวย จาก กล้อง จุลทรรศ์น อีเล็กตรอน พบว่า ภายในไซโต พลาสซึม บรรจุเต็มไปด้วยเม็ด secretory granules และ C-cell เหล่านี้ ให้ปฎิกิริยา ทางอิมมูโน ฮิสโต เคมี ต่อสาร calcintonin และ CEA (cerebro-embryonic antigen) โดยเฉพาะ เมื่อเซลล์ชนิดนี้ เกิดเป็นเซลล์เนื้องอก (neoplastic cells).
ข. Neoplastic lesion (พวกที่เป็นเนื้องอก)
2. Adenomatous goiter
3. Diffuse hyperplasia of thyroid gland.
4. Thyroiditis
Gross appearance การเปลี่ยนแปลง ของต่อม ขึ้นกับ สาเหตุ ระยะเวลา และความ รุนแรง ดังนั้น จึงพบ ว่า ต่อม โตขึ้น ทั้ง 2 ข้าง ไม่เท่ากัน ผิวขรุขระ เนื่องจาก ก้อนมี ขนาด ต่างๆ ภายใน ต่อมโต ตั้งแต่ 1 เท่า จนกระทั่ง 10 เท่า ของขนาดปกติ หรือมี น้ำหนัก มากกว่า ปกติ เล็กน้อย ไปจนถึง 2,000 กรัม ต่อมโดย ทั่วไป มีสีน้ำตาล ลักษณะนุ่ม แต่สี และ ความแข็ง อาจเปลี่ยนไป ตามสภาพ ของการ เสื่อมสภาพ ภายใน เช่น เป็นถุงน้ำ จะนิ่มมาก และถ้ามี เลือดออก จะทำให้ มีสี ไปทาง น้ำตาลเข้ม ปนดำ ถ้ามี พังผืด และหินปูน เกาะมาก จะมี สีเทา หรือขาว และแข็ง ผิวหน้าตัด จะเห็น เป็นก้อน กลม ขนาดต่างๆ จำนวนมาก เบียดกันแน่น หรืออาจ กระจาย เป็นแห่งๆ ก้อนมี ได้หลาย ขนาด ก้อน เหล่านี้ อาจแสดง ลักษณ ะการเสื่อมสภาพ แตกต่าง กันออกไป เช่น บางก้อน ผิวหน้า ตัดมัน ใส บางก้อน มีเลือดออก หรือเป็น ถุงน้ำ, เป็นวุ้น, มีพังผืดพอก (fibrosis) และหินปูนจับ เนื้อต่อม ที่ยังปกติ จะเห็น เป็นสีน้ำตาล แยกได้ชัดเจน
Microscopic appearance
พบเห็นเป็นกลุ่มก้อน (Hyperplastic nodule) อยู่ใกล้ชิดกันหรือห่างจากกัน
แต่ละกลุ่มจะประกอบด้วย follicle เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีหลายแบบ และหลายขนาด
เช่น เป็นกลุ่มของ follicle เล็ก มี colloid น้อยหรือ follicle ใหญ่ที่มี
colloid มาก มี follicular cell เพิ่มจำนวนขึ้นจนอาจยื่นเข้าไปในช่องว่างของ
follicle ได้ ในบางบริเวณของต่อม follicle อาจมี involution คือมี follicular
cell แบนลงมี colloid เพิ่มมากใน follicle และยังพบ connective tissue แทรกอยู่ทั่วไป
Diffuse hyperplasia of thyroid
gland (Grave's disease)
Gross appearance เนื่องจาก เซลล์มี hyperplasia เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วไป จึงทำให้ ต่อมโตขึ้นทั้ง 2 ข้างโตเท่ากัน หรือใกล้เคียงกัน ไม่โตมาก อาจโตเพียง 1-2 เท่าของขนาดปกติ ไม่มีก้อนให้เห็น สีออกสีน้ำตาลปนแดง คล้ายเนื้อสด ลักษณะนุ่มทั่วทั้งก้อน ลักษณะผิวหน้าตัดจะเป็นเนื้อเดียวกันหมด (homogenous) ไม่มีการเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับใน adenomatous goiter
Microscopic appearance พบมีการเพิ่มจำนวนของเซลล์เยื่อบุผิว(epithelial cell)และจำนวน follicle มากมาย พบ colloid ใน follicle น้อย epithelial linning เป็น tall columnar เนื่องจาก มี epithelial cell เพิ่มจำนวนมากมายภายใน follicle จึงทำให้เซลล์ล้นออกมาจากแถวมาเป็นแขนงเดี่ยวหรือมีแฉกยื่นเข้าไปในถุงเป็นรูปคล้ายนิ้วมือ (papillary infoldings) เซลล์ มี nucleus โตอยู่ที่ base ของ epithelial cell บาง follicle อาจไม่มี colloid อยู่เลย ส่วน connective tissue ที่อยู่ระหว่าง follicle พบมีกลุ่มหลอดเลือดฝอยและกลุ่มของ lymphoid cells แทรกอยู่เป็นหย่อม ๆ
Thyroiditis
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. Acute thyroiditis ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อ พบเป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคติดเชื้ออื่นๆ เชื้อที่พบส่วนมากได้แก่ streptococcus hemolyticus, staphylococcus aureus และ pneumococcus โดยเฉพาะในกรณี โลหิตเป็นพิษ (sepsis) และ อวัยวะใกล้เคียงอักเสบติดเชื้อ เป็นต้น พยาธิสภาพที่เกิดส่วนมากเป็นหนอง (suppurative) บางรายพบเป็นหนองฝีในต่อมได้
2. Chronic thyroiditis พบได้บ่อย ส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ autoimmune disease แบ่งย่อย ๆ ออกเป็น 4 ชนิดที่สำคัญ
2. Lymphocytic thyroiditis
3. Granulomatous (de Quervain's) thyroiditis.
4. Riedel's thyroiditis (Riedel's struma)
Gross appearance ลักษณะคล้ายกับ diffuse hyperplasia แต่ลักษณะ ที่แตกต่างคือ Hashimoto's thyroiditis จะแข็งมากกว่า แต่ไม่แข็งเหมือนก้อนหินอย่างกรณีโรค Riedel's thyroiditis นอกจาก นี้ต่อมมีสีน้ำตาลอ่อน ออกไปทางสีน้ำตาลปนขาว และไม่ติดกับอวัยวะข้างเคียง สามารถเลาะออกจากอวัยวะข้างเคียงได้ง่าย โดยมาก กลีบข้างหนึ่ง จะโตกว่าอีกข้างหนึ่งเล็กน้อย หน้าตัดเรียบสีขาวเทาทั่วไปตลอดทั้งต่อม แต่มีบางรายพบหน้าตัดเป็นก้อนๆ กรณีเช่นนี้บางคนเรียกว่า nodular Hashimoto's thyroiditis.
Microscopic appearance follicle ส่วนใหญ่จะ atrophy และ follicle บางส่วนจะถูกทำลายเสียหายไป และบาง follicle บุด้วย เซลล์ หรือเป็นกลุ่ม เซลล์ ที่มี cytoplasm มากสีชมพูสดเรียกว่า Hurthle cell อาจพบ hyperplasia ของ follicle ได้ ลักษณะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ระหว่าง follicle จะมี lymphocyte, plasma cell และ mononuclear cell แทรกกระจายอยู่ทั่วไป บางครั้งพวก lymphocyte รวมกลุ่มกันกลายเป็น follicle ที่มี germinal center เด่นชัด บางบริเวณจะเห็น follicle ถูกทำลายเสียหายเกิด fibrosis ขึ้นมาแทน เห็นได้เป็นทางคดเคี้ยวภายในต่อมซึ่งลักษณะนี้จะไม่พบใน diffuse hyperplasia
Lymphocytic thyroiditis
Gross appearance ต่อมจะโตทั่วๆไป แต่ค่อนข้างจะแข็งกว่าต่อมในโรค Graves' disease เล็กน้อย หน้าตัดทึบ อาจมีลักษณะเป็นตุ่มก้อนที่ไม่ชัดเจน
Microscopic appearance ภาพจากกล้องจุลทรรศน์ พบกลุ่มก้อนของ lymphoid nodule ที่มี germinal center อยู่ตรงกลาง ทั่วไปในเนื้อไทรอยด์ เซลล์ที่ดาษอยุ่ใน follicle มีลักษณะแบนราบลง หรือมีขนาดเล็กลง อาจพบลักษณะการเปลี่ยนแปลงเป็น oncocyte (เซลล์ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อยและไซโตพลาสซึมสีแดง)
Granulomatous thyroiditis (De Quervain's thyroiditis)
Gross appearance ต่อมโตทั่วๆไป หรือเฉพาะข้างใดข้างหนึ่ง ค่อนข้างแข็ง ไม่ตัดกับอวัยวะข้างเคียง เลาะออกได้ง่าย บางคราวติดแน่น จนถึงกับทำให้หลอดลมตีบตันได้ แต่ส่วนใหญ่ต่อมมีผิวเรียบ ผิวหน้าตัด สีเหลืองปนเทาเป็นบริเวณที่มี necrosis บนพื้นสีน้ำตาล ถ้าเป็นมานาน ส่วนสีเทาเหลืองจะเปลี่ยนเป็นสีขาว เนื่องจากมี fibrosis เกิดขึ้น ทำให้มองดูแล้วเข้าใจผิดว่าเป็นมะเร็งได้
Microscopic appearance พบลักษณะเป็น granuloma ซึ่งประกอบด้วย follicle ที่ถูกทำลาย colloid และ foreign body giant cell และมี inflammatory cell มาจับกลุ่มประกอบเป็น granuloma พบเป็นแห่งทั่วไปพร้อมกับมี fibrous tissue แทรกเพิ่มขึ้นในบริเวณใกล้เคียง
Other specific granulomatous thyroiditis
ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อ TB เชื้อรา หรือ syphilis หรือพบเป็นแบบ multifocal granulomatous thyroiditis
เป็นโรคที่ไม่ค่อยพบเกิดกับต่อมไทรอยด์ จึงพบได้ค่อนข้างน้อย ส่วนมากที่พบ มักพบเกิดกับผุ้ป่วยสูงอายุ และพบมากในผู้หญิงมากกว่าผุ้ชาย ต่อมไทรอยด์ที่เป็นโรคนี้มักมีขนาดใหญ่ มีรูปร่างไม่แน่นอน ไม่เจ็บ ไม่มีประวัติการอักเสบต่อต่อมไทรอยด์มาก่อน ค่อนข้างแข็งและยึดติดแน่นกับอวัยวะข้างเคียง เช่น หลอดลม ทำให้การหายใจลำบาก เหมือนมีปลอกเหล็กบีบรัดคอไว้ ทำให้มองดูลักษณะคล้ายมะเร็งได้
Gross appearance ลักษณะ ภายนอก ต่อมโต ไม่เท่ากัน มีบางส่วน ของต่อม เท่านั้น ที่เกิด เป็นโรคนี้ ส่วนที่เป็น จะมีลักษณะ แข็ง พบ เยื่อพังผืด ยึดติด จากเยื่อหุ้มต่อม ไปยัง กล้ามเนื้อข้างเคียง ทำให้ เวลาผ่าตัด แยกออกจาก เนื้อข้างเคียง ลำบาก พบ ผิวหน้าตัด บริเวณ ที่เป็นโรค จะขาวแข็ง สลับไปกับ ส่วนผิวหน้าตัด ที่มีสภาพ ปกติ
Microscopic appearance พบว่า เยื่อพังผืด ที่เกิดกับ ต่อมไทรอยด์ จะเข้าไป แทนที่ เนื้อ follicles ที่ถูก ทำลาย เยื่อเหล่านี้ มีลักษณะ ติดสีชมพูแดง เป็นแผ่น (hyalinized) ส่วนกล้ามเนื้อ จะถูกแทรก ด้วยเยื่อพังผืด ลักษณะเดียวกัน เซลล์อักเสบ ที่พบ ส่วนมาก เป็น lymphocyte และ plasma cell บางแห่ง อาจพบ กลุ่มของ เซลล์ eosinophil ได้ เส้นเลือดขนาดกลาง มักจะ ถูกห่อหุ้ม และแทรก ด้วยเยื้อพังผืด เหล่านี้ด้วย
ข. Neoplastic lesion of thyroid แบ่งออกเป็นชนิดต่างๆที่สำคัญได้ดังนี้
Malignant tumor - Papillary carcinoma
- Undifferentiated carcinoma
ลักษณะ thyroid โตขึ้นเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากเนื้องอกชนิดนี้ส่วนใหญ่มักเป็นก้อนเดี่ยว ลักษณะก้อนกลม สีเทาหรือเทาปนขาว มีผนังหุ้มชัดเจน ขนาดที่พบบ่อยระหว่าง 3-4 เซนติเมตร อาจพบมี การเสื่อมสภาพได้ เช่นเดียวกับ adenomatous ก้อนเนื้องอก แยกได้ชัดเจนกับเนื้อปกติของต่อมไทรอยด์
Microscopic appearance ลักษณะเซลล์ ที่ประกอบเป็นเนื้องอกนี้ มีรูปร่างและการเรียงตัวแตกต่างกันจึงมีชื่อ เรียกตามลักษณะของเซลล์ เช่น
Fetal or microfollicular adenoma เซลล์มีการเจริญมากขึ้น เริ่มมีการเรียงตัวเป็น follicle ขนาดเล็กๆ
Macrofollicular หรือ colloid adenoma เซลล์เรียงตัวเป็น follicle ใหญ่มี colloid มาก
Simple adenoma เซลล์มีลักษณะเหมือน follicle ที่เจริญเต็มที่ พบได้มากที่สุด
Atypical adenoma เซลล์มีลักษณะแปลกๆ มองดูคล้ายเป็นมะเร็ง
การเปรียบเทียบความแตกต่างของ Gross appearance ระหว่าง adenomatous, adenoma
และ hyperplasia ทั่วไป เพื่อใช้เป็นแนวทางในการวินิจฉัย
|
|
|
1.จำนวน nodule มีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป มีขนาดต่างๆกันพบได้ทั้งสองข้าง ทำให้ต่อมสองข้างโตไม่เท่ากัน | มีก้อนเดียว,กลม พบข้างใด ข้างหนึ่ง | ไม่มีก้อน ต่อมโตทั้งสองข้าง เกือบเท่าๆกัน |
2.ผิวหน้าตัด ก้อนเบียดแทรกกันเกะกะทั่วไป ขอบของแต่ละก้อนไม่ชัด เนื่องจากไม่มีผนังหุ้ม | ผิวหน้าตัดขอบเขต เด่นชัดมีผนังหุ้ม | ผิวหน้าตัดราบเรียบ เป็นเนื้อเดียวกันหมด ทั้งสองข้าง สีแดงคล้ายเนื้อสด |
3.ลักษณะเนื้อของก้อน คล้ายคลึงกับ เนื้อต่อมปกติที่อยู่ข้างเคียง | ก้อนเนื้องอกเห็นเด่นชัดแตก ต่างจากเนื้อต่อมปกติ |
Gross appearance ส่วนใหญ่เป็นก้อนเดี่ยวกลมมีผนังหุ้มบางส่วน หรือไม่มีเลย ขนาดที่พบบ่อยคือ 3-4 ซม. ผิวหน้าตัดในตำแหน่งที่ไม่มีผนังหุ้ม ขอบไม่เรียบ มีลักษณะเป็นรัศมีสีขาวเล็กแทรกเข้าไปในเนื้อ gland ที่ดี ก้อนมีสีเทาปนขาว ค่อนข้างแข็งและติดแน่นกับเนื้อดี ผิวหน้าตัดลักษณะเป็นขุยหยาบคล้ายพรมกำมะหยี่ หรือ ขรุขระมาก เนื่องจากเนื้องอก งอกยื่นออกมาเป็นแขนงต่างๆ จำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม พื้นผิวหน้าตัดอาจจะเรียบได้บ่อยๆ ถ้า papillation มีน้อยจะมีลักษณะสีเทาปนขาวในก้อน
Microscopic appearance ลักษณะที่สำคัญ คือ
1. มี papillation งอกออกมามาก จนกระทั่งมองไม่เห็นลักษณะเดิมของ follicle ซึ่ง papillation ประกอบด้วยแกนกลางเป็นหลอดเลือดมี tumor cell หุ้มเป็นผนังโดยรอบลักษณะเป็น columnar cell นิวเคลียสใหญ่ โปร่งใส (ที่เรียกว่า ground-glass appearance) หรือบางครั้งพบ ก้อนสีแดงกลมอยู่ในนิวเคลียส (nuclear pseudoinclusion) หรือพบเห็นเป็นรอบพับตรงกลางของเยื่อหุ้มนิวเคลียส (nuclear groove) วางซ้อนเหลื่อมกันและมักไม่อยู่ตามฐานของเซลล์ โครมาตินมักติดอยู่ตามขอบ ของ nucleoli มักจะอยู่ periphery
2. มี Psammoma body ซึ่งประกอบด้วย calcium ลักษณะเป็นวงเรียงขนานจุดศูนย์กลางร่วมกัน ถ้าย้อม H&E จะติดสีน้ำเงินเข้ม ขนาดประมาณ 10 เท่าของเม็ดเลือดแดงแทรกอยู่ระหว่าง epithelial cell หรือ stroma พบได้ ประมาณ 40 % ของ papillary carcinoma
3. อาจพบมีการเรียงตัวของ เซลล์ เป็น follicle ร่วมด้วยบ่อย ๆ แต่ nucleus ของ follicular cell จะมีลักษณะคล้าย papillary จึงเรียกว่าเป็น papillary carcinoma ที่มี follicular varient
4. อาจพบ tumor cell รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ แทรกอยู่ตามที่ต่าง ๆ ภายในกลีบต่อมข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างได้พร้อมกัน แต่ละกลุ่มไม่มีผนังหุ้ม (Multicentric Origination)
5. มีการแพร่กระจายไปตาม lymphatic system มากกว่าทางกระแสโลหิต
พบค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ papillary carcinoma ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ลักษณะแยกยากจาก adenoma นอกจากจะพบ กลุ่ม follicular cells แทรกผ่านออกจากเยื่อผนังหุ้มก้อน (capsular invasion) หรือ พบ follicular cells แทรกผ่านเข้าไปในหลอดเลือด (vascular invasion) หรือ เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปที่อวัยวะข้างเคียง หรือไกลออกไป (metastasis) พฤติกรรมทางชีวภาพของมะเร็งชนิดนี้ค่อนข้างร้าย มักลุกลามไปตามหลอดเลือด และไปเจริญเติบโตตามอวัยวะสำคัญหลายแห่ง เช่น ปอด และกระดูก เป็นต้น บางรายมาหาแพทย์เนื่องจากกระดูกที่ขาส่วนต้นหัก เนื่องจากการลุกลามของมะเร็งชนิดนี้
แบ่งออกเป็น
1. Minimally Invasive (Encapsulated) type เซลล์มะเร็งส่วนใหญ่อยู่ในก้อน บางส่วนกำลังแทรกผ่านหรือทะลุเยื้อผนังหุ้มก้อนออกมาสู่เนื้อไทรอยด์ที่ปกติ และหรือแทรกเข้าสู่หลอดเลือด เซลล์มะเร็งยังไม่ได้ลุกลามไปไกล
2. Widely invasive type เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปทั่วต่อมไทรอยด์ หรืออวัยวะข้างเคียง หรืออวัยวะที่ไกลออกไป
Gross appearance เป็นก้อนกลมเดี่ยว ขนาดพบได้ตั้งแต่ 1-10 เซนติเมตรส่วนมากอยู่ระหว่าง 3-4 ซม. ผิวหน้าตัดเรียบ เนื้อเทาปนขาวหรือปนน้ำตาล ขอบก้อนมีผนังบางหุ้มคล้าย adenoma บางครั้งมีหย่อมเลือดออกเนื้อตาย และช่องว่างภายในคล้ายถุงน้ำร่วมด้วย
Microscopic appearance ลักษณะประกอบด้วย เซลล์ เรียงตัวเป็น follicle หรือ trabecular อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้งสองอย่าง การ differentiation มีหลายระดับตั้งแต่ไม่มีรูปร่างเป็น follicular เด่นชัด จนถึง follicle ที่มีรูปร่างเหมือนปกติระหว่าง follicle มีหลอดเลือดแทรกอยู่ทั่วไป nucleus ของเซลล์ ติดสีปกติหรือเข้ม nucleus รูปร่างแปลกๆอาจพบได้บ้างแต่ไม่มาก การวินิจฉัยที่สำคัญต้องพบ cell tumor มี capsular หรือ vascular invasion เสมอ
บางแห่งเรียกว่า sarcomatoid carcinoma ปกติพบเกิดกับผู้ป่วยสูงอายุ พบเป็นก้อนโตเร็ว และพร้อมกับมีอาการเสียงแหบ กลืนอาหารลำบาก และหายใจไม่สะดวก
Gross appearance Tumor ชนิดนี้โตเร็ว ดังนั้นกว่าผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ ก้อนมักจะโตมากและลุกลามไปทั่วทั้ง ต่อมและกระจายเข้าอวัยวะข้างเคียงบริเวณคอแล้ว ก้อนเนื้องอกมีลักษณะหน้าตัดทึบ นุ่มและยุ่ย และพบจุดเลือดออกทั่วไป
Microscopic appearance แบ่งออกเป็น 3 ชนิดตามรูปร่างของ เซลล์ คือ
2. Spindle cell type ลักษณะเซลล์เป็นรูปกระสวยเรียงตัวสอดแทรกประสานกันมี ลักษณะคล้ายรั้ว
3. Giant cell type เซลล์จะมีขนาดใหญ่ มี nucleus มากนับเป็นสิบขึ้นไปพบบ่อยที่สุดใน 3 ชนิดของ anaplastic carcinoma และร้ายแรงที่สุด มะเร็งชนิดนี้ อาจจะมีต้นกำเนิด โดยการเปลี่ยนรูปมาจาก papillary หรือ follicular carcinoma ซึ่งเกิดขึ้นมาก่อนหน้าแล้วก็ได้
2. familial.
Gross appearance พบเป็นก้อนเดี่ยว กลมแข็ง มีขอบเขตชัดเจน อาจมีหรือไม่มีเปลือก capsule หุ้ม หน้าตัดทึบ มีสีขาวเทา ส่วนมากพบก้อนที่ตอนกลางหรือตอนบนของกลีบใดกลีบหนึ่งของต่อม
Microscopic appearance ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ที่แบ่งตัวมากมายอยู่กันแน่น
เซลล์มีลักษณะรูปร่างได้หลายแบบ เช่น อาจกลม หรือเป็นเหลี่ยม (polygonal)
หรือมีรูปทรงยาวปลายเรียวแหลม (spindle) โดยทั่วไปเซลล์มีนิวเคลียสเดียว กลม
อยุ่ตรงกลาง หรืออาจชิดไปด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนมาก cytoplasm มีจำนวนมากเมื่อเทียบกับนิวเคลียส
โดยมากไม่ติดสีแดงหรือน้ำเงิน(amphophilic) บางรายอาจมีการเปลี่ยนรูปร่างเหมือนเซลล์
oncocyte ได้ (เซลล์ใหญ่มีไซโตพลาสซึมมากติดสีแดง ขอบเขตเซลล์ชัดเจน มีนิวเคลียสกลมเล็กโดยมากอยู่ตรงกลาง)
กลุ่มเซลล์มะเร็งเหล่านี้อาจจัดเรียงตัวได้หลายแบบ บางแบบเรียงกันเป็นแถว
(trabecular) บางแบบจัดเรียงเป็นหรือคล้ายต่อม (glandular) แต่มีบางแบบที่มีการเจริญเเติบโตโดยงอกออกเป็นช่อ
(pseudopapillary) บางรายเซลล์อาจมีขนาดเล็กจัดเรียงเหมือนกลุ่มเนื้องอก neuroendocrine
ระหว่างกลุ่มเซลล์มะเร็ง มีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันธ์พร้อมด้วยเส้นเลือดเล็กสอดแทรกไปมาระหว่างกลุ่มเซลล์มะเร็งเหล่านี้
พร้อมกับพบสาร collagen และสารที่มีรูปร่างไม่แน่นอนติดสีชมพูที่เรียกว่า
amyloid (แอเมอลอยด์ หรือ อะมีลอยด์) นอกจากนี้อาจพบสารหินปูนพอกเป็นหย่อมๆได้
ถ้าย้อมทางอิมมูโนฮิสโตเคมี จะพบสาร calcitonin ในเซลล์มะเร็งดังกล่าว ยังมีสารที่ตรวจพบโดยอิมมูโนฮิสโตเคมีอีกหลายตัวให้อ่านดูรายละเอียดจากตำรา
Pathology of thyroid gland