Preoperative and postoperative care in children การดูแลเด็กโต โดยทั่วไปคล้ายกับในผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ ปริมาณน้ำ เกลือแร่ และยาที่ใช้ ซึ่งควรคำนวณจากน้ำหนักตัวของเด็กเสมอ ในเด็กเล็กยิ่งต้องเคร่งครัดมาก หลักการใหญ่ๆ สำหรับการดูแลสภาพทั่วไป ก่อนและหลังผ่าตัดในเด็ก โดยเฉพาะในเด็กเล็กมีดังนี้ 1. Temperature ควรควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้ปกติ โดยพยายามลดทั้งการสูญเสียความร้อน และการเพิ่มความร้อนให้แก่เด็ก ขณะผ่าตัด ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัด ควรใช้เตียงผ่าตัดที่มีผ้าห่มปรับอุณหถภูมิ เพื่อเพิ่มความอบอุ่น และตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายเด็กเป็นระยะ หลังผ่าตัด ควรจัดให้เด็กอยู่ในสถานที่และพื้นผิวอบอุ่น ลมผ่านน้อย ความชื้นสูง ถ้าจำเป็น ควรให้เด็กเล็กอยู่ใน incubator หรือใช้ radiant warmer 2. Hypoglycemia เกิดได้บ่อยในเด็กเล็กหลังผ่าตัด ควรป้องกันโดยให้อาหารเมื่อถึงเวลา ถ้ายังให้อาหารทางปากไม่ได้ ควรให้น้ำเกลือ และกลูโคส ทางหลอดเลือดดำให้พอเพียง ในกรณีมีอาการที่สงสัยว่าจะเกิดจาก hypoglycemia เช่น อาการเกร็ง ควรให้กลูโคส พร้อมกับเจาะตรวจน้ำตาลในเลือดก่อนให้ 3. Fluid and electrolytes ควรป้องกันและแก้ไขภาวะ dehydration เด็กแรกคลอดที่มีน้ำหนักในเกณฑ์ปกติ ต้องการน้ำ 60-70 มล/กก น้ำหนักตัวในวันแรก ความต้องการจะเพิ่มขึ้นจนถึงวันละ 100-120 มล/กก ในวันที่ 5 หลังคลอด เด็กที่มีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติ ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 30 ในระยะหลังผ่าตัด ปริมาณน้ำที่ต้องการจะลดลง เพราะมีภาวะ stress เกิดขึ้น ทำให้เกิด water retention ได้ง่าย ดังนั้นในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ควรให้น้ำเพียง 1 ใน 2 ของปริมาณปกติ ที่เด็กต้องการ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงต่อมาควรให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 ใน 3 และเพิ่มต่อมาเป็น 3 และ 4 หลังจากนั้นจึงให้น้ำได้ตามปริมาณปกติ |
||||||||||
|
||||||||||
ในระยะ 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ควรลดปริมาณน้ำที่ให้ลงหนึ่งในสาม ในวันต่อมาให้เพิ่มขึ้นเป็น 3 ใน 4 ของปริมาณปกติที่ต้องการ และหลังจากนั้น ก็ให้น้ำได้ตามปริมาณปกติ ทั้งนี้ควรประเมินผลการให้น้ำ จากสภาพของเด็ก รวมทั้งพิจารณาดูปริมาณ และความเข้มข้นของปัสสาวะด้วย 4. Acid-base จำเป็นต้องตรวจและแก้ไข ให้อยู่ในภาวะที่สมดุลย์ โดยเฉพาะในโรคที่มีแนวโน้มเป็น acidosis สูง เช่น diaphragmatic hernia หรือโรคที่อาจเกิด alkalosis เช่น hypertrophic pyloric stenosis 5. Hypocalcemia เกิดได้ง่ายในเด็กที่ไม่ได้รับอาหารทางปาก และทำให้กระตุกจนถึงชักได้ จึงต้องให้แคลเซี่ยมทดแทนเป็นระยะ 6. Jaundice ส่วนมากเป็น physiologic ในระยะแรกคลอด ถ้าระดับ bilirubin สูงกว่า 15 มล/100 มล. ควรให้ phototherapy เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น kernicterus ในรายที่ไม่ใช่ physiologic ควรทำการวิเคราะห์ และรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ 7. Sepsis เป็นปัญหาสำคัญในเด็กเล็ก เพราะภูมิต้านทานต่ำ จึงต้องใช้มาตรการป้องกัน และให้การรักษาทันที ที่มีการติดเชื้อ อีกทั้งพิจารณาให้ prophylatic antibiotics ในกรณีผ่าตัดใหญ่ 8. Body weight ควรชั่งน้ำหนักตัวเป็นระยะ เพื่อช่วยประเมินสภาพ hydration และ physiologic status ของเด็ก 9. Special care อื่นๆ เช่น |
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
References | ||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
Copyright (c) Chulalongkorn University
|