การเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำ |
วิธีการเจาะเลือดจากเส้นเลือดที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันมี
2 วิธี ได้แก่ |
 |
การเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำด้วยวิธีใช้กระบอกดูดเลือด
(syringe blood collection system) |
 |
การเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำด้วยระบบสูญญากาศ
(evacauted blood collection system) |
|
การเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำด้วยระบบสูญญากาศนั้น
จัดว่าเป็นวิธีใหม่และเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก การเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำด้วยวิธีนี้
ได้รับการพัฒนาขึ้น โดยอาศัยหลักการทางฟิสิกส์ ในเรื่องกลศาสตร์การไหลของของเหลว
(Fluid Mechanics) ปัจจุบันแนะนำให้ใช้การเจาะเลือดด้วยระบบสูญญากาศ
เนื่องจากวิธีดังกล่าวมีความสะดวก ลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสเลือด
และสามารถเก็บตัวอย่างเลือดได้หลายหลอด ในการเจาะเลือดเพียงครั้งเดียว
|
|
เส้นเลือดที่เป็นตำแหน่งที่เหมาะสำหรับการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจ
คือ เส้นเลือดดำ median cubital vein ใน antecubital fossa หรือ crook
of the elbow (ด้านในของขัอพับของแขน) เนื่องจากบริเวณดังกล่าว เส้นเลือดอยู่ตื้น
และเส้นใหญ่ ถ้าผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการบริการยาทางหลอดเลือดดำหลายครั้ง
หรือ อยู่ในสภาพป่วยหนัก ควรหลีกเลี่ยงเส้นเลือดดังกล่าว เพื่อสงวนเก็บไว้สำหรับเป็นบริเวณที่ใช้บริหารยาที่สำคัญ
หรือ การรักษาที่จำเป็นมากกว่า |
หากต้องการเจาะเส้นเลือดข้างที่มีการใส่สายสวนคาไว้อยู่
หรือ มี arteriovenous fistula ควรขออนุญาตแพทย์เจ้าของไข้ก่อน ในกรณีจำเป็นต้องเจาะเก็บเลือดตัวอย่างในข้างที่บริหารสารน้ำให้ผู้ป่วย
ควรหยุดการให้สารน้ำชั่วคราว ประมาณ 3 นาทีก่อนเก็บเลือดตัวอย่าง เขียนบันทึกสิ่งที่กระทำกับผู้ป่วยตามความเหมาะสม
ไว้ในบันทึกรายงานของผู้ป่วย และใบรายงานผลการตรวจ การเจาะเก็บเลือดตัวอย่างจากแขนด้านตรงข้าม
หรือเจาะให้ต่ำกว่าบริเวณให้สารน้ำเพื่อส่งตรวจ เป็นการตรวจที่เหมาะสม
ยกเว้นต้องส่งตรวจองค์ประกอบทางเคมีในเลือด ที่เป็นชนิดเดียวกับในสารน้ำที่กำลังบริหารอยู่
(เช่น กลูโคส หรือ เกลือแร่) |
ก่อนการเจาะเก็บตัวอย่าง
ผู้เจาะเก็บตัวอย่างพึงปฏิบัติตามหลัก universal precaution อย่างเคร่งครัด
อาทิเช่น สวมถุงมือ, ใส่เสื้อคลุมป้องกันที่เหมาะสม (ตารางที่
1) |
|
ตารางที่
1 ข้อแนะนำตามหลักการ Universal precautions
การปฏิบัติ
|
ข้อแนะนำ
|
1.
ล้างมือ |
ทุกครั้งที่สัมผัสผู้ป่วยหรือสิ่งส่งตรวจ |
2.
สวมถุงมือ |
ทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งส่งตรวจ |
3.
สวม Mask |
สัมผัสกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ
หรือละอองสิ่งส่งตรวจ |
4.
สวม Gown |
ทุกครั้งที่สัมผัสผู้ป่วยหรือสิ่งส่งตรวจ |
|
|
|
|