ความบกพร่องทางเพศ (Sexual dysfunction)
          ผู้ชาย
          1. กามตายด้าน (Impotence)
          2. การหลั่งน้ำกามเร็ว (Premature ejaculation)
          3. การไม่หลั่งน้ำกามในช่องคลอด (Retarded ejaculation or Ejaculatory
incompetence)
        ผู้หญิง
          1. กามตายด้าน (Frigidity)
          2. การไม่บรรลุความสุขสุดยอดทางกามารมณ์ (Orgasmic dysfunction)
          3. การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอด (Vaginismus)
กามตายด้านในผู้ชาย
     คือการที่องคชาตไม่สามารถแข็งตัวได้เต็มที่หรือแข็งพอที่จะร่วมเพศ แบ่งเป็น
3 แบบ คือ
          1. แบบปฐมภูมิ (Primary impotence) คือ การที่องคชาตไม่เคยแข็งตัวเต็มที่
หรือแข็งพอที่จะร่วมเพศได้สำเร็จเลย
          2. แบบทุติยภูมิ (Secondary impotence) คือ การที่องคชาตเคยแข็งตัว
และร่วมเพศได้มาก่อน แต่มาเกิดความผิดปกติขึ้นภายหลัง
          3. แบบชั่วคราว (Transient episode) คือ การที่องคชาตไม่แข็งตัวเป็นครั้งคราว
หรือในบางสถานการณ์
สาเหตุ
          1. ทางร่างกาย ได้แก่ ความผิดปกติของฮอร์โมน ระบบไหลเวียนของเลือด
และกลไกของระบบประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวขององคชาต เช่น ร่างกายอ่อนเพลีย
โรคเบาหวานระยะแรก สภาวะ Androgen ต่ำ โรคตับ โรค Multiple sclerosis
          ยาหรือสารบางอย่าง เช่น สุรา หรือ Parasympatholytic medication ก็ทำให้เกิด
อาการได้เช่นกัน
          2. ทางจิตใจ อาจเกิดจากความวิตกกังวล  ซึ่งเป็นผลของความขัดแย้งภายในจิตใจ
ตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้กลัวการร่วมเพศ กลัวอวัยวะเพศหญิง  รังเกียจน้ำหล่อลื่นและกลิ่น
จากช่องคลอดหรือกลัวการมีลูก  แต่ส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลในขณะจะร่วมเพศ คือ
กลัวการร่วมเพศล้มเหลวหรือถูกเรียกร้องจากฝ่ายหญิงมากเกินไปในเรื่องเพศ 
          3. ความไม่ปรองดองกันระหว่างสามีภรรยา  ทำให้เกิดความรู้สึกก้าวร้าวต่อกัน
อันทำลายอารมณ์ทางเพศและการตอบสนองทางเพศของทั้งสองฝ่าย การร่วมเพศ
จะบรรลุถึงความสุขสุดยอดได้    ต้องเกิดขึ้นอย่างอิสระการบังคับหรือเรียกร้องในเรื่องเพศ
จะทำให้การตอบสนองทางเพศในคนที่อารมณ์หวั่นไหวง่ายเสียไป
ปฏิกิริยาต่ออาการกามตายด้าน
          เกือบทุกวัฒนธรรมและทุกชนชั้นส่วนใหญ่ความภาคภูมิใจในตัวของผู้ชาย
มีความสัมพันธ์กับความสามารถทางเพศ  เพราะฉะนั้นถ้าเกิดอาการกามตายด้าน
จะเกิดความวิตกกังวลหรือความเศร้าตามมา และก็เป็นสาเหตุให้เกิดอาการกามตายด้าน
ด้วย เป็นวงจรไปเรื่อยๆ นอกจากนั้นอาการกามตายด้านยังอาจทำให้เกิดความไม่ปรองดอง
ในชีวิตสมรส เพราะฝ่ายหญิงอาจเข้าใจผิดว่าสามีไม่รักหรือแอบไปหาความสุขที่อื่น
มาก่อนจึงไม่สามารถร่วมเพศกับตนได้และในทางกลับกันความไม่ปรองดองในชีวิตสมรส
ก็เป็นสาเหตุของอาการกามตายด้านได้ด้วย
กามตายด้าน ความวิตกกังวล ความเศร้า
กามตายด้าน ความไม่ปรองดองในชีวิตสมรส
การรักษา
          ขึ้นอยู่กับความเชื่อในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคของผู้ให้การรักษาแต่ละคน ซึ่งมี
หลายวิธี ได้แก่
          1. การใช้ฮอร์โมนเพศและยา ฮอร์โมนเพศที่ใช้คือ Testosterone และยาพวกที่
กระตุ้นสมองส่วนกลาง
          2. จิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis)
          3. พฤติกรรมบำบัด (Behavior therapy) โดยวิธี Systematic desensitization
          4. การรักษาชีวิตสมรส (Marital therapy)
          5. เน้นการรักษาที่อาการ ซึ่งเป็นวิธีของมาสเตอร์และจอห์นสัน
          จากการศึกษาผลการรักษาวิธีต่างๆ พบว่า แต่ละวิธีข้างต้นได้ผลดีในบางราย
แต่วิธีเน้นการรักษาที่อาการของมาสเตอร์และจอห์นสันได้ผลดีกว่าวิธีอื่นคือ กามตายด้าน
ชนิดทุติยภูมิกหายร้อยละ 80 และชนิดปฐมภูมิหายมากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วย
การหลั่งน้ำกามเร็ว (Premature ejaculation)
          แพทย์ได้พยายามให้คำจำกัดความของสภาวะนี้ไว้มาก  แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้
แน่นอน
          - บางคนว่าเป็นการหลั่งน้ำกามเร็วกว่า 30 วินาทีหลังจากองคชาตผ่านเข้าไป
ในช่องคลอด
          - บางคนว่าเป็นการหลั่งน้ำกามก่อนขยับตะโพก 10 ครั้ง
          - มาสเตอร์และจอห์นสันถือว่าถ้าสามีถึงจุดสุดยอดจากการ่วมเพศก่อนภรรยา
มากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนครั้งของการร่วมเพศ จัดว่าผู้ชายหลั่งน้ำกามเร็ว
          - Kaplan ให้คำนิยามดีกว่าผู้อื่น กล่าวว่า  การหลั่งน้ำกามเร็วหมายถึง  สภาวะที่
ผู้ชายไม่สามารถกลั้น (Voluntary control) การหลั่งน้ำกามของตนเอง ฉะนั้นเมื่อเขาได้รับ
กระตุ้นทางเพศจะถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็ว  ผู้ชายบางคนเมื่อองคชาตถูกสัมผัสก็หลั่ง
น้ำกามแล้ว บางคนเห็นผู้หญิงเปลือยหรือภาพโป๊ก็หลั่ง  แต่ส่วนใหญ่จะหลั่งภายหลังที่
สอดใส่องคชาตเข้าไปในช่องคลอด  คนทั่วๆ ไปคิดว่าผู้ชายเหล่านี้มี Erotic sensation
มาก แต่ความจริงมีบ่อยที่เขารู้สึกชาที่อวัยวะเพศ (Genital anesthesia) แต่ไม่เคยทราบ
จนกระทั่งได้เปรียบเทียบความรู้สึกเมื่อสามารถกลั้นการหลั่งน้ำกามได้
สาเหตุ
          1. ทางจิตวิทยา ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ที่เชื่อว่า ผู้ชายเหล่านี้มีความรู้สึก " Sadistic "
ต่อหญิงอย่างรุนแรงอยู่ภายในจิตใต้สำนึก อาการดังกล่าวซึ่งทำให้ผู้หญิงเปื้อน สกปรก
และไม่มีความสุขเป็นการแสดงของความรู้สึกนั้น  หรือในจิตใต้สำนึก คิดว่าการที่ผู้หญิง
ต้องการให้เขาหลั่งน้ำกามช้าลงเป็นการแสดงความเป็นนายเหนือผู้ชาย จึงเกิดอาการ
ต่อต้านผู้หญิง
          อย่างไรก็ดี การศึกษาของมาสเตอร์และจอห์อนสันรวมทั้งของ Kapan พบว่า
การหลั่งน้ำกามเร็วไม่มีความสัมพันธ์กับความขัดแย้งภายในจิตใจ หรือจิตพยาธิสภาพ
อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ  มาสเตอร์และจอห์นสันกล่าวว่า  การหลั่งน้ำกามเร็ว
เกิดเพราะติดนิสัยการเที่ยวโสเภณีหรือการลักลอบร่วมเพศ ซึ่งต้องรีบๆ หลั่งให้เสร็จไป
รวมทั้งความเคยชินจากการดึงองคชาตออกมาหลั่งภายนอกช่องคลอด (Coitus
interruptus) บ่อยๆ ทำให้ไม่รู้จักหัดบังคับการหลั่งน้ำกาม
          2. มีผู้เชื่อว่าความไม่ปรองดองกันระหว่างสามีภรรยา  เป็นสาเหตุของการหลั่ง
น้ำกามเร็ว แต่การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสอย่างเดียวไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น
ต้องรักษาที่อาการร่วมด้วย
          3. บางทฤษฎีเชื่อว่า ผู้ชายเหล่านี้มีความรู้สึกไวเมื่อถูกกระตุ้นทางเพศ  จึงแนะนำ
วิธีแก้ไขโดยการพยายามลดความรู้สึกหรือชลอความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศลง Pomeroy
เชื่อว่าความวิตกกังวลเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้  เพราะทำให้ขาด
การควบคุมการหลั่งน้ำกาม
ปฏิกิริยาต่อการหลั่งน้ำกามเร็ว
          ภรรยาอาจคิดว่าสามีไม่ต้องการหรือรังเกียจ  เพราะสามีจะระมัดระวังกลัวถูก
กระตุ้นมากเกินไปจากการสัมผัสภรรยา  พฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ภรรยาโกรธและไม่ให้
ความไว้วางใจ
          สามีจะรู้สึกตัวเองผิดและบกพร่องทำให้หลีกเลี่ยงการร่วมเพศ  เนื่องจาก
ความวิตกกังวลในการร่วมเพศ และเป็นผลทำให้เกิดอาการกามตายด้านตามมา

การรักษา
          1. แพทย์ที่คิดว่า การหลั่งน้ำกามเร็วเกิดจากอวัยวะเพศไวต่อความรู้สึกเกินไป
จะรักษาโดยใช้ถุงยางอนามัย ยาชาเฉพาะที่ การทำให้ตนเองเจ็บขณะร่วมเพศ การขมิบก้น
การอาบน้ำเย็น การออกกำลังกาย การดื่มสุรา หรือการใช้ยาระงับประสาท
การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองก่อนร่วมเพศ และการใช้ยางหรือวงแหวนรัดองคชาตไว้
          2. ฝึกควบคุมการหลั่งน้ำกาม โดยวิธี " Stop - start " ของ Simons หรือ Squeeze
Technique ของมาสเตอร์และจอห์นสัน  ร่วมกับใช้การร่วมเพศท่าตะแคงช่วย
ผลการรักษา
          มาสเตอร์และจอห์นสันพบว่า  การรักษาตามวิธีของเขาทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุม
การหลั่งน้ำกามได้อย่างน่าพอใจถึงร้อยละ 98
การไม่สามารถหลั่งน้ำกามในช่องคลอด (Retarded ejaculation)
          คือการไม่สามารถหลั่งน้ำกามในช่องคลอดได้  แม้ว่าจะได้รับการกระตุ้นมากพอ
ที่ควรจะหลั่ง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
          1. ชนิดปฐมภูมิ อาการเกิดตั้งแต่การร่วมเพศครั้งแรกในชีวิต  และผู้ป่วยไม่เคย
ได้รับความสุขสุดยอดระหว่างการร่วมเพศเลยแต่สามารถถึงจุดสุดยอด ได้จากการสำเร็จ
ความใคร่ด้วยตนเอง
          2. ชนิดทุติยภูมิ ผู้ป่วยเคยมีความสุขสุดยอดจากการร่วมเพศมาก่อน  แต่เพิ่งมามี
อาการภายหลังพบบ่อยที่มีอาการหลังจากได้รับความกระทบกระเทือนใจ จากเหตุหนึ่ง
เหตุใดโดยเฉาะ
          ความรุนแรงของโรคมีตั้งแต่การยับยั้งการหลั่งน้ำกาม  โดยตนเองไม่สามารถ
บังคับได้เป็นครั้งคราว  แต่ดีขึ้นจากการคิดฝันหรือกระตุ้นเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยจนถึง
ไม่สามารถหลั่งน้ำกามได้เลย 
          บางคนที่มีอาการน้อยๆ ไม่สามารถหลั่งน้ำกามในช่องคลอดของผู้หญิงบางคน
โดยเฉพาะกับภรรยาของตนเอง แต่กับหญิงอื่นสามารถหลั่งได้
          ที่พบบ่อยคือ ผู้ป่วยไม่สามารถถึงจุดสุดยอดขณะร่วมเพศ แต่สามารถหลั่งน้ำกาม
จากการกระตุ้นด้วยมือหรือปากโดยคู่นอนเดียวกัน   บางคนจะหลั่งได้เมื่อเขาดึงองคชาต
ออกจากช่องคลอดและกระตุ้นด้วยมือของตนเอง  หลังภรรยาได้รับความสุขทางเพศแล้ว
บางคนที่เป็นรุนแรงจะหลั่งน้ำกามได้ต่อเมื่อคู่นอนไม่ได้อยู่ในที่นั้น  เนื่องจากมีความตื่นเต้น
หรือตึงเครียดในเรื่องเพศตรงกันข้าม
สาเหตุ
          1. ทางร่างกาย พบน้อยมาก ได้แก่ สภาวะ Androgen ต่ำ โรคเบาหวาน ยาบางอย่าง
เช่น Melleril และยาลดความดันโลหิตบางตัว
          2. ทางจิตใจ เป็นสาเหตุสำคัญที่พบบ่อย  ปัญหาที่พบก็เหมือนกับ สาเหตุของอาการ
กามตายด้าน
          3. การเรียนรู้ เคยพบว่าผู้ป่วยมีประสบการณ์กระทบกระเทือนใจในเรื่องเพศ เช่น
การจับได้ว่าภรรยามีชู้ การถูกผู้ใหญ่พบขณะร่วมเพศหรือขณะสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
บางรายเกิดอาการหลังจากถูกภรรยาบังคับให้ทำหมัน
          4. ความไม่ปรองดองในชีวิตสมรส
ปฏิกิริยาของการไม่สามารถหลั่งน้ำกามในช่องคลอด
          ภรรยามักจะเดือดร้อนต่ออาการดังกล่าวของสามี  บางรายอาจมี
ความหวาดระแวงว่าสามีไม่ต้องการ
          สามีเองบางครั้งอาจต้องแสร้งว่ามีความสุขสุดยอด แต่ในที่สุดก็มักเกิด
ความท้อแท้ใจเป็นผลให้เกิดอาการกามตายด้านตามมา 
การรักษา
          1. พฤติกรรมบำบัดโดยวิธี Systematic desensitization
2. มาสเตอร์และจอห์นสันใช้วิธีให้ภรรยาสำเร็จความใคร่ (Masturbate) ให้สามี
ด้วยมือจนสามีใกล้จะหลั่งน้ำกามแล้วจึงสอดองคชาตใส่เข้าไป ในช่องคลอดให้หลั่งน้ำกาม
ภายในช่องคลอด
          3. จิตบำบัด เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาที่ทำให้เกิดอาการ เช่น  ความกลัวโดยปราศจาก
เหตุผล ความจำซึ่งกระทบกระเทือนใจ หรือความแตกร้าวในชีวิตสมรส  แล้วหาทางแก้ไข
จิตบำบัดอาจใช้ร่วมกับการรักษาวิธีที่ 1 และ 2
ผลการรักษา
          การรักษาได้ผลดีประมาณร้อยละ 50 ของผู้ป่วย
กามตายด้านในผู้หญิง (Frigidity)
          คือ การที่สตรีไม่สามารถตอบสนองทางเพศต่อการกระตุ้นทางร่างกายและจิตใจ
ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นด้วยตนเองหรือโดยบุคคลอื่นหรือแม้แต่ขณะร่วมเพศกัน
จะไม่มีการคั่งของเลือดดำบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้ช่องคลอดฝืด ไม่ลื่นและไม่มีความสุข
          1. ชนิดปฐมภูมิ คือการที่หญิงนั้นไม่เคยมีการตอบสนองทางเพศเลย ไม่ว่ากับ
ชายใดหรือในสถานการณ์ใด
          2. ชนิดทุติยภูมิ คือการที่หญิงเคยมีการตอบสนองทางเพศ จากการถูกกระตุ้นเพศ
มาก่อน แต่มาหมดไปภายหลังสุดยอดทางเพศ แบ่งเป็น 2 ชนิด
สาเหตุ
          1. ทางร่างกายมีน้อยมาก เช่น มะเร็งอวัยวะเพศ โรคของต่อมใต้สมอง  ซึ่งมีผลต่อ
ระดับฮอร์โมน Testosterone และยาบางอย่าง เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด  ยาเสพติดที่กด
ประสาทส่วนกลาง เช่น เฮโรอีน  มอร์ฟิน  และเมทาโดน
          2. ทางจิตใจ
          2.1 ความขัดแย้งภายในจิตใจตั้งแต่วัยเด็ก ได้แก่ การที่ปมปิตุฆาต (Oedipal
complex) ไม่ถูกแก้ไขและมีการอิจฉาที่มีองคชาต (Penis envy) หรือมีความกลัว
ความละอาย ความรู้สึกผิดเนื่องจากถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดกวดขันในเรื่องเพศ หรือ
จากวัฒนธรรมและศาสนาซึ่งเก็บกดในเรื่องนี้  รวมทั้งความกลัวจะถูกทอดทิ้ง หรือ
ไม่เป็นที่ต้องการ
          2.2 ปัญหาทางจิตใจในระยะใกล้ๆ ได้แก่ ความกังวลในขณะร่วมเพศ  โดยเกรงว่า
ตนจะไม่สามารถปฏิบัติกิจทางเพศได้ดี  ความกังวลว่าตนเองจะไม่ถึงจุดสุดยอดหรือตนเอง
ไม่มีความต้องการร่วมเพศในขณะนั้น
          3. วิธีการร่วมเพศ ฝ่ายหญิงอาจถูกกระตุ้นไม่ถูกที่  เพราะบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก
ของฝ่ายหญิงแต่ละคนแตกต่างกัน   ถ้าไม่มีการบอกกล่าวแก่กัน  ฝ่ายชายอาจปฏิบัติ
ไม่ถูกต้องหรืออีกอย่างอาจเกิดจากการกระตุ้นน้อยไป
          4. ความไม่ปรองดองในชีวิตสมรส ฝ่ายหญิงอาจคิดดูถูกสามีหรือคิดว่าสามี
เป็นคนโง่ หยาบคายหรือไม่น่าไว้วางใจ ความรู้สึกดังกล่าวทำลายการตอบสนองทางเพศ
ของตนเอง
ปฏิกิริยาต่อกามตายด้าน
     ในผู้หญิง
          - อาจไม่รู้สึกอะไร
          - มีปฏิกิริยาต่อต้านเรื่องเพศหรือก้าวร้าวสามีอย่างรุนแรง
          - เกลียดตัวเอง เศร้า แต่ไม่กล้าปฏิเสธเรื่องเพศอย่างเปิดเผยกับสามี  จึงหลีกเลี่ยง
โดยเกิดความเจ็บป่วยหรืออาการอ่อนเพลีย
     ในผู้ชาย
          - ส่วนมากเห็นเป็นของธรรมดา เนื่องจากเกือบทุกวัฒนธรรมมักไม่สนับสนุนให้
ผู้หญิงแสดงการตอบสนองทางเพศมาก ผู้หญิงที่มีการตอบสนองทางเพศดี อาจถูก
เข้าใจว่าเป็นคนเลว
          - แต่คนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง อาจนึกว่าภรรยารังเกียจหรือไม่ต้องการ 
ทำให้เกิดความขัดแย้งกับภรรยาในเวลาต่อมา
การรักษา
1. มุ่งรักษาที่อาการ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนคือ
          1.1 ผลัดกันกอด จับ ลูบ หรือเลียส่วนต่างๆ ของร่างกาย ยกเว้นอวัยวะเพศ
(Sensate focus or non - demand pleasuring experience)
          1.2 ผลัดกันกระตุ้นอวัยวะเพศ โดยผู้ถูกกระทำเป็นผู้แนะให้ (Genital stimulation)
          1.3 การร่วมเพศโดยฝ่ายหญิงไม่คำนึงว่าตนจะถึงจุดสุดยอดหรือไม่
(Non - demand coitus) มาสเตอร์และจอห์นสันแนะนำ การร่วมเพศท่าที่ผู้หญิง
อยู่ข้างบน
2. การแก้ไขปัญหาที่เกิดในระยะใกล้ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความไม่รู้จัก วิธีการร่วมเพศ
ที่ถูกต้อง และการไม่กล้าพูดถึงความรู้สึกและความต้องการทางเพศของตนให้อีกฝ่ายฟัง
3. ถ้าวิธีที่ 1 และ 2 ไม่ได้ผล  ควรศึกษาความขัดแย้งภายในจิตใจซึ่งอยู่ในจิตใต้สำนึก
และมีกำเนิดมาตั้งแต่วัยเด็ก
การไม่บรรลุความสุขสุดยอดทางกามารมณ์ (Orgasmic dysfunction)
          คือการที่เพศหญิงสามารถมีการตอบสนองทางเพศได้เป็นปกติ  เมื่อถูกกระตุ้น
อารมณ์เพศ แต่ไม่มากพอที่จะถึงจุดสุดยอด แบ่งเป็น
          1. ชนิดปฐมภูมิ คือการไม่เคยมีความสุขสุดยอดจากการร่วมเพศเลยในชีวิต
        2. ชนิดทุติยภูมิ คือการเคยมีความสุขสุดยอดจากการร่วมเพศมาก่อน แต่เพิ่งมาหาย
ไปทีหลัง
          3. ชนิด Absolute คือการไม่สามารถมีความสุขสุดยอดจากการร่วมเพศ หรือจากการ
กระตุ้นคลิตอริส
          4. ชนิด Situational คือการไม่สามารถบรรลุความสุขสุดยอด  เฉพาะในบางสภาวะ
เท่านั้น
อุบัติการ
          - จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 5-15 ของสตรีทั้งหมดมีความสุขจากการร่วมเพศ
แต่ไม่ถึงจุดสุดยอด
          - อุบัติการของปัญหานี้จะค่อยๆลดน้อยลง เมื่อผู้หญิงมีประสบการณ์ทางเพศ
มากขึ้น ความสามารถทางเพศของผู้หญิงจะเพิ่มขึ้นจากการเรียนรู้และความมั่นใจ
ในชีวิตสมรสจะดีมากเมื่ออายุ 30 - 40 ปี
          - จากการศึกษามากมายพบว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างมากระหว่างเวลาที่ใช้
ในการร่วมเพศ (Intermission) กับโอกาสที่สตรีจะมีความสุขสุดยอด ถ้าระยะร่วมเพศ
สั้นกว่า 1 นาที  สตรีส่วนใหญ่จะไม่มีโอกาสถึงจุดสุดยอดได้เลย ถ้านาน 1 - 10 นาที
ครึ่งหนึ่งของสตรีจะถึงจุดสุดยอด ถ้านานกว่า 16 นาที สตรีเกือบทุกคน จะมาถึง
จุดสุดยอดได้ แต่อย่าลืมว่า 3 ใน 4 ของผู้ชายประมาณร้อยละ 75 หลั่งน้ำกามภายใน
2 นาทีของการร่วมเพศ จากผลการสำรวจของ Kinsey ดังนั้นผู้ชายจึงมีส่วน
ในความบกพร่องนี้ด้วย
สาเหตุ
          เหมือนกับกามตายด้านในผู้หญิง
การรักษา
          1. การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองช่วยให้ผู้หญิงได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสุขสุดยอด
ทางเพศ แต่การแนะนำวิธีนี้ให้กับคนบางคน  ซึ่งมีความรู้สึกผิดเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่
ด้วยตนเองอาจไม่เหมาะ การใช้ Vibrator ก็ช่วยให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดง่ายและอาจถึง
จุดสุดยอดได้หลายครั้ง
          2. มาสเตอร์และจอห์นสันแนะนำ Sensate focus เพื่อความตื่นตัวทางเพศ
ก่อนร่วมเพศและการกระตุ้นคลิตอริส จนใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้วจึงร่วมเพศ  โดยใช้ท่า
ผู้หญิงอยู่ข้างบน
          3. ถ้าวิธีที่ 1 และ 2 ไม่ได้ผล ต้องศึกษาว่ามีปัญหาความขัดแย้งภายในจิตใจ
ตั้งแต่วัยเด็กซ่อนเร้นอยู่หรือเปล่าและแก้ไขเสีย
การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอด
          คือสภาวะที่มีการหดรัดตัวแน่น (Reflex spasm) ของกล้ามเนื้อบริเวณ
ปากช่องคลอด ทำให้ไม่สามารถร่วมเพศได้
สาเหตุ
          1. ทางกาย

             เป็น Conditioned response ซึ่งอาจเกิดจากเคยได้รับความเจ็บปวดขณะ
ร่วมเพศ เพราะฉะนั้นสภาวะใดที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดขณะร่วมเพศ เช่น เยื่อพรหมจารี
เหนียวหนาและมีการเกร็ง การอักเสบในอุ้งเชิงกราน (Pelvic inflammatory diseases)
Endometriosis การเหี่ยวของเยื่อบุช่องคลอดเนื่องจากวัย (Senile atrophy of vaginal)
ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) ก็เป็นสาเหตุให้เกิดอาการนี้ได้
          2. ทางจิตใจ
          ทฤษฎีจิตวิเคราะห์เชื่อว่า อาการเป็น Hysterical or conversion ต่อความขัดแย้ง
ภายในจิตใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความอิจฉา ความโกรธแค้นผู้ชายและความต้องการจะ
" ตอน" (Castrate) ผู้ชายทำให้ร่างกายแสดงออก  โดยการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ปากช่องคลอด
          มาสเตอร์และจอห์นสันกล่าวว่า เกิดจากการเลี้ยงดูที่เคร่งครัดเกี่ยวกับศาสนา  ซึ่ง
ไม่สนับสนุนในเรื่องเพศ  บางคนว่าความไม่รู้ไม่เข้าใจในเรื่องเพศทำให้กลัว และเกิดอาการ
เกร็งเพื่อหลีกเลี่ยงการร่วมเพศ
          3. เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน
ปฏิกิริยาต่อการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอด
          ภรรยามักจะรู้สึกสองจิตสองใจเกี่ยวกับการรักษา  ใจหนึ่งอยากรักษา แต่อีกใจหนึ่ง
ก็กลัวการหาย เมื่อสามีสอดใส่องคชาตเข้าไปไม่ได้ก็จะรู้สึกเจ็บและตกใจกลัว การเกร็ง
ของกล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอดก็จะมากขึ้น เป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไป
          สามีจะรู้สึกขัดใจที่ไม่สามารถร่วมเพศได้และอาจคิดว่าภรรยาไม่ต้องการให้ตน
ร่วมเพศหรือคิดว่าตนไม่มีความสามารถ ทำให้ภรรยาเกิดความรู้สึกอยากร่วมเพศด้วย
อาจเกิดอาการกามตายด้านตามมา
การรักษา
          1. พฤติกรรมบำบัดชนิด Systematic desensitization โดยการใช้นิ้วมือหรือ
เครื่องมือสอดเข้าไปในช่องคลอด เริ่มตั้งแต่ขนาดเล็กและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ  จนถึงขนาด
องคชาต ขณะที่ผู้ป่วยอยู่ในสภาวะกำลังสบาย ไม่กลัวและไม่ตึงเครียด
        2. จิตบำบัด  ในกรณีที่มีปัญหาความขัดแย้งภายในจิตใจเป็นอุปสรรคในการรักษา
วิธีที่ 1
        3. ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส   อันอาจเป็นผลจาก
ความผิดปกตินี้ของภรรยาก็ควรรักษาปัญหานี้ร่วมกันไปด้วย