การดูแลรักษา........
การวางแผนครอบครัว (Family planning)
              โรคเบาหวานไม่ได้ทำให้สตรีมีบุตรยาก      ดังนั้นการวางแผนครอบครัวจึงเป็นสิ่งจำเป็น ประการหนึ่งโดยเฉพาะในสตรีที่เป็นโรคเบาหวานชนิด IDDM แต่เนื่องจากการคุมกำเนิด แต่ละวิธี
ล้วนมีปัจจัยเสี่ยงและผลเสีย จึงควรพิจารณาเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสตรีแต่ละราย
        การคุมกำเนิดโดยวิธีธรรมชาติ
                      ไม่ว่าจะเป็นวิธีนับช่วงปลอดภัยหรือการหลั่งภายนอก ล้วนแล้วแต่มีอัตราล้มเหลว
สูงถึงร้อยละ 20(98)  นอกจากนี้ ยังพบว่าอัตราล้มเหลวอาจสูงขึ้นในสตรีที่เป็นโรคเบาหวาน เนื่อง
จากความผิดปกติของรอบระดู   ข้อสำคัญการคุมกำเนิดวิธีนี้ต้องใช้ความร่วมมือ และเข้าใจอย่าง
ถูกต้องของคู่สามีภรรยา จึงเป็นวิธีที่ไม่ค่อยแนะนำให้ใช้

        การคุมกำเนิดโดยใช้ Barrier

                      การใช้ Barrier ไม่ว่าจะเป็นถุงยางอนามัย (ทั้งชนิดสำหรับผู้ชายและผู้หญิง) หรือ
Diaphragm มีข้อดีในเรื่องราคาถูก      ไม่มีผลต่อเมตาบอลิสมของร่างกาย และปลอดภัยจากโรค
ติดต่อทางเพศสัมพันธ์    โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเอดส์ แต่มีข้อเสียในเรื่องของอัตราล้มเหลวซึ่งสูง
ได้ถึงร้อยละ 8-12(98)

        การใช้ห่วงอนามัย (Intrauterine device ; IUD)

                     ห่วงอนามัยมีข้อดีในเรื่องของอัตราล้มเหลวต่ำ     และไม่มีผลต่อเมตาบอลิสมของ
ร่างกาย         แต่พบว่าอัตราการเกิดการอักเสบในอุ้งเชิงกรานสูงขึ้น ในสตรีที่คุมกำเนิดโดยใช้ห่วง
อนามัย อย่างไรก็ดี Skouby และคณะทำการศึกษา      ไม่พบความแตกต่างของอัตราการเกิดการ
อักเสบในอุ้งเชิงกราน  ในสตรีปกติและสตรีที่เป็นโรคเบาหวานที่คุมกำเนิดโดยวิธีดังกล่าว(99)

        การคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน

                   ในอดีตพบว่าการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรวม   (Combined  oral  contraceptipe
pills; COC) ที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง (50 ไมโครกรัม)   เพิ่มอัตราเสี่ยงของการเกิดโรค ในระบบ
หัวใจและหลอดเลือด และมีข้อเสียอีกประการหนึ่งคือ   ทำให้ความต้องการอินสุลินสูงขึ้นในสตรี
ที่เป็นโรคเบาหวาน โดยเกิดจากการลดลงของ Insulin receptor(100)   จึงไม่แนะนำให้ใช้ในสตรี
กลุ่มนี้
                   ต่อมา Skouby และคณะ ศึกษาการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรวมทั้งแบบ Monophasic และ Triphasic และชนิด Pregestogen อย่างเดียวในสตรีที่เป็นโรคเบาหวานไม่
พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในเรื่องความต้องการอินสุลิน ระดับ HbA1   ระดับกรดไขมัน
อิสระ LHL-cholesterol และ HDL-cholesterol(101)  ซึ่ง Kjos และคณะทำการศึกษาในเวลา
ต่อมาในสตรีที่เป็น GDM และคุมกำเนิดด้วยยาเม็ดคุมกำเนิด ชนิดรวมหลังคลอดก็ได้ผล ในทำนองเดียวกัน(102)
                   สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด   Progestogen  อย่างเดียวไม่พบว่าทำให้เกิดผลข้าง
เคียง ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด     แต่มีข้อเสียในเรื่องอัตราล้มเหลวที่สูงกว่า และการก่อให้
เกิดความผิดปกติของรอบระดู   นอกจากนี้ยังพบอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ชนิด 2 เพิ่ม
ขึ้นในสตรีที่เป็น GDM ที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด Progestogen อย่างเดียวหลังคลอด(103)
                    Progestogen ในรูปแบบอื่นได้แก่ ยาฉีดและยาฝังคุมกำเนิด พบว่ายาฉีดคุมกำเนิด
Depo-medoxy progesterone acetate (DMPA) ทำให้เกิดความผิดปกติของ Glucose tolerance ในสตรีปกติ(104) และทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ และ HDL-cholesterol ในเลือดลด
ลง แต่ไม่มีผลต่อระดับ Total cholesterol และ LDL-cholesterol(105) ในทำนองเดียวกัน มีการ
ศึกษาพบว่ายาฝังคุมกำเนิดก็ทำให้ระดับกลูโคส และอินสุลินในเลือดสูงขึ้นในสตรีปกติ(106)แต่
ข้อมูลของ Progestogen ทั้ง 2 รูปแบบในสตรีที่เป็นโรคเบาหวานยังมีจำกัด   การเลือกคุมกำเนิด
ด้วย Progestogen ไม่ว่ารูปแบบใดจึงควรพิจารณาเป็นรายๆไป