การติดตามผู้ป่วยภายหลังการรักษาด้วย I-131

การติดตามดูว่าผู้ป่วยมีการกลับเป็นใหม่ของโรค หรือ มีการแพร่กระจายของมะเร็งภายหลังการรักษาหรือไม่ จะใช้วิธีดังนี้

แผนภูมิที่ 1 : แสดงการติดตามผู้ป่วยมะเร็งชนิด DTC ภายหลังการรักษาด้วย I-131

1. การทำสแกนทั้งตัวด้วยสารกัมมันตรังสีไอโอดีน (Total Body Scan, TBS, I-131 scan)
คือการให้ผู้ป่วยกิน I-131 จำนวน 1-3 mCi แล้วถ่ายรูปด้วยเครื่อง Gamma camera ที่ 72 ชม.หลังจากนั้น โดยควรทำ TBS ภายหลังการรักษา 6 เดือน ถ้ายังผิดปกติ ให้การรักษาด้วย I-131 ซ้ำได้ทุก 6 เดือน รวมแล้วไม่เกิน 1 คูรี แต่ถ้าทำ TBS แล้วผลปกติ ให้ซ้ำทุก 1 ปี จำนวน 1-2 ครั้ง หลังจากนั้นทำทุก 2 ปี จำนวน 1-2 ครั้ง ถ้าผลปกติ ให้ทำทุก 5 ปี เป็นเวลารวม 20 ปี

2. การตรวจระดับ Thyroglobulin (Tg) ในเลือด
ควรตรวจทุก 6 เดือน ค่าปกติ : ไม่ควรเกิน 5 ng/ml (ในขณะที่กิน LT4) และไม่ควรเกิน 10 ng/ml (ในขณะที่หยุดยา LT4) ถ้าค่า Tg สูงกว่าปกติ แสดงว่า มีการกลับเป็นใหม่ของโรค หรือมีการแพร่กระจายของมะเร็ง ควรทำ TBS แล้วพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

3. การตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอื่นๆ ได้แก่

3.1 การทำสแกนทั้งตัวด้วย thallium-201 หรือ Tc-99m MIBI (Whole body thallium-201 หรือ Tc-99m MIBI scan)
จะใช้ในกรณีที่ TBS ให้ผลลบ แต่ระดับ Tg ในเลือดสูงผิดปกติ การทำ TBS ด้วย TL-201 หรือ Tc-99m MIBI จะช่วยเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งได้ โดยพบว่ามีความไว (sensitivity) สูงกว่า I-131 แต่มี specificity ต่ำกว่า I-131 62 (รูปที่ 11)
3.2 ultrasonography สามารถค้นหาการแพร่กระจายของมะเร็งมายังต่อมน้ำเหลือง
3.3 CT scan, MRI สามารถค้นหาการแพร่กระจายของมะเร็งมายังปอด หรือต่อมน้ำเหลือง บริเวณ mediastinum ได้