Basal
laminae มีหน้าที่หลายอย่าง
เช่น
1. Structural attchment เป็นตัวเชื่อมระหว่างโครงสร้าง
เช่น แผ่นเซลล์เนื้อผิว กับเนื้อประสานที่อยู่ใต้ต่อเนื้อผิว
2. Compartmentalization ให้เป็นโครงสร้างที่แบ่งสัดส่วนเป็นช่องของเนื้อประสานออกจาก
เนื้อผิว เนื้อประสาท และเนื้อกล้าม เช่น เนื้อผิว กล้ามเนื้อ
เนื้อประสาท มีเนื้อประสานเป็น basal lamina, endomysium และ endoneurium
ตามลำดับ กั้นหรือห่อหุ้ม
3. Filtration กรองสารชนิดต่างๆ เข้า-ออกระหว่างเนื้อผิวและเนื้อประสาน
โดยมี basal lamina เป็นตัวควบคุมหรือตะแกรงที่กรอง เช่น ใน renal corpuscle
มี glomerular basement membrane เป็น fittration
4. Polarity induction เนื่องจากเยื่อหุ้มเซลล์เนื้อผิวแต่ละด้าน
มีลักษณะและการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้น basal membrane surface จึงมีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกับ
apical และ lateral membrane surface นั่นคือ สามารถเหนี่ยวนำทำให้มีการผลิต
basal lamina ได้ ซึ่งมีการสาธิตให้เห็นได้ ในการเลี้ยงเซลล์เนื้อผิวในจานแก้วทดลอง
5. Tissue scaffoldings พบว่า basal lamina ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างนำร่องให้มีการเกิดใหม่
ของเนื้อเยื่อ เช่น ในเส้นประสาทที่บาดเจ็บ หรือถูกตัดขาด สามารถงอกเพิ่มขึ้นมาใหม่ได้
ถ้ายังคงมี basal lamina คงเหลืออยู่ตรงบริเวณนั้น
องค์ประกอบของ Basal laminae
มีอย่างน้อย 5 ชนิด ได้แก่
1. Type IV collagen
2. Proteoglycan
3. Laminin
4. Entactin and fibronectin : Entactin คือ small sulfated
glycoprotein ส่วน fibronectin คือ glycoprotein ชนิดอื่น
5. Anchoring filaments เป็น collagen type VII เป็นเส้นใยเชื่อมระหว่าง
basal lamina กับ reticular lamina ที่พบอยู่ในเนื้อประสาน |