ชนิดของการซ่อมแซม
1.Primary
union หรือ healing by
first intention เป็น การซ่อมแซม บาดแผล ที่สะอาด ปราศจากเชื้อโรค
และปากแผล ถูกเย็บติดกันด้วย ไหมเย็บ การบาดเจ็บ ที่เกิดแผลจากมีดกรีดนี้
ทำให้เกิดเนื้อตาย จำนวนเล็กน้อย ตรงบริเวณที่ถูกกรีด เยื่อบุผิว และเยื่อ
connective tissue รวมทั้ง หลอดเลือดถูกตัดขาดจำนวนหนึ่ง บริเวณที่ถูกตัดขาดนี้
ถูกแทนที่ด้วย ก้อนเลือดที่แข็งตัว ภายในประกอบด้วย เซลล์เม็ดเลือด ปะปนกับ
สายใยไฟบริน ซี่งปกติเห็นเป็น เลือดกรัง ปกคลุมปากแผล ในระยะ 24
ชั่วโมงแรก เม็ดเลือดขาว เริ่มปรากฎที่ ขอบแผล และเคลื่อนที่เข้าหา
สายใยไฟบรินที่ ก้อนเลือดแข็งกรังนี้ ขณะเดียวกัน เยื่อบุผิว บริเวณขอบแผล
เริ่มสร้างขึ้นใหม่และต่อเชื่อมกัน ในวันที่ 3 เริ่มพบ
เซลล์กินสิ่งแปลกปลอม (macrophage) ปรากฎแทนที่ เม็ดเลือดขาวชนิด neutrophils
ระยะนี้พบ granulation tissue บริเวณแผล ส่วน เยื่อบุผิว เจริญเติบโตไปเรื่อยๆ
ในวันที่ 5 granulation
tissue สะสมมากขึ้น และมาอุดเต็ม ช่องว่าง ของแผล ที่ถูกกรีด ในระยะนี้พบเยื่อ
collagen สะสมเพิ่มมากขึ้น และเยื่อบุผิว มีความหนา และเป็นผิวหนัง ซึ่งเจริญเติบโต
เต็มที่ พร้อมกับ มีการสร้าง keratin ในระยะอาทิตย์ที่ 2
เยื่อ collagen สะสมมากขึ้น เพื่อเสริม ความแข็งแกร่ง ของแผล และเซลล์
fibroblast เพิ่มจำนวนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เซลล์อักเสบ เม็ดเลือดขาว การบวม
และการขยายหลอดเลือด พบน้อยลง จนแทบไม่พบเลย ในระยะอาทิตย์ที่
4 พบ เยื่อพังผืด ปกคลุมเต็มที่ เพื่อเสริมสร้าง ความแข็งแรง ให้กับ
การสมานแผล กลายเป็น แผลหาย ไม่พบร่องรอย การอักเสบ
และต่อมขุมขน ต่างๆที่ถูกทำลายก็ไม่พบ เห็นแต่ เยื่อพังผืดของ แผลหาย
(scar) อย่างเดียว
2.Secondary
union หรือ healing by
second intention ในกรณีที่ แผล มีการทำลายเนื้อเยื่อ เป็นจำนวนมาก
และเป็นบริเวณกว้าง และลึก เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย (myocardial
infarction) แผลในกะเพาะ (gastric ulcer) หนองฝีในตับ (liver abscess) หรือแผลขนาดใหญ่ที่
ผิวหนัง (skin ulcer) เป็นต้น ทำให้พื้นที่ใน การสมานแผล กินบริเวณกว้าง เยื่อบุผิว
เจริญเติบโตขึ้นมา ปกคลุมได้ไม่เต็มที่ มีช่อง ห่างมากเกินกว่า ที่จะ สมานแผล
ตามแบบแรก ทำให้ต้องสร้าง granulation tissue เป็นจำนวนมาก มาปิดพื้นที่ แผลชนิดนี้
เซลล์อักเสบ ต้องทำหน้าที่ใน การกำจัด เศษเนื้อตาย เส้นใยไฟบริ้น และน้ำหนองที่พบในบริเวณแผลลึกและกว้างเหล่านี้
การสมานแผล ชนิดนี้จะเกิด แรงหดตัว เพื่อให้ ขนาดของ แผล หดเล็กลง (wound
contraction) เข้าใจว่า เนื่องจากเป็น เซลล์ไฟโปรปลาส (fibroblast) ชนิดพิเศษ
มีคุณสมบัติคล้าย เซลล์กล้ามเนื้อเรียบ เรียกว่า myofibroblast