พยาธิสภาพของการอักเสบ (Morphologic pattern of acute and chronic inflammation)
2.Catarrhal inflammation เป็น การอักเสบที่มี การผลิตของเหลวใสชนิด mucus ออกมามาก ตัวอย่าง ที่เห็นได้ชัดเช่น เวลาเป็นหวัด มีน้ำมูกใสออกมา เป็นจำนวนมาก
3.Fibrinous inflammation เป็น การอักเสบ ที่พบ เยื่อไฟบริน เกาะติด และดาษอยู่บน พื้นผิวของอวัยวะ ที่เป็นช่องว่างเป็นส่วนใหญ่ เช่นท ี่เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ช่องท้อง หรือข้อต่างๆ เช่น acute fibrinous pericarditis เป็นต้น
4.Haemorrhagic inflammation เป็น การอักเสบ เนื่องจากมีการทำลาย หลอดเลือด ค่อนข้างสูง เช่น ในกรณี สารแข็งตัวในเลือด (coagulation factors) ถูกใช้ไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ร่างกายขาด สารแข็งตัว เกิดภาวะ DIC (disseminated intravascular coagulation) ตัวอย่าง เช่น ตับอ่อนอักเสบ พบเลือด กระจายทั่วไป ในตับอ่อน เนื่องจาก น้ำย่อยออกมาทำลาย หลอดเลือด เรียกว่า acute hemorrhagic pancreatitis หรือ กรณีพบเชื้อ meningococcus แพร่กระจาย ในกระแสเลือด ที่เรียกว่า meningococcal septicemia. เป็นต้น
5.Suppurative (purulent) inflammation เป็นการอักเสบ จากการติดเชื้อ จุลชีพ ส่วนมาก จาก เชื้อบักเตรี ทำให้เกิด exudate (ในที่นี้ หมายถึง หนอง) ซึ่งเป็น ของเหลว ข้น ประกอบด้วย เศษเนื้อ ตาย และ ดี ปะปนกับ เซลล์อักเสบ ชนิด polymorphs เยื่อไฟบริน และ สารเคมีช ักนำต่างๆ ของเหลวข้น นี้มีสี ขุ่นขาว เหลือง จนเขียว ปกคลุม บริเวณ ที่อักเสบ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ เป็นหนอง (acute suppurative appendicitis) เยื้อหุ้มสมองอักเสบเป็นหนอง (acute suppurative meningitis) เยื้อหุ้มหัวใจ อักเสบ เป็นหนอง (acute suppurative (purulent) pericarditis) หรือ เยื้อหุ้มช่องท้อง อักเสบเป็นหนอง (acute purulent peritonitis) เป็นต้น หรือในกรณีที่ exudate สะสมกันมาก จนเป็นโพรง หรือเป็นกลุ่มก้อน ในอวัยวะที่ทึบ เรียกว่า abscess (หนองฝี) เช่น liver abscess หรือสะสมอยู่ ในช่องว่างของอวัยวะต่างๆ เรียกว่า empyema เช่น empyema thoracis เป็นต้น
6.Membranous inflammation เป็นการอักเสบ ของอวัยวะที่เป็นท่อ เช่น ทางเดินหายใจ โดยเกิดเป็น แผ่น หรือเยื่อของเศษเนื้อตาย ปะปนกับไฟบริน และเซลล์อักเสบ ปกคลุมอยู่บน เยื่อบุผนัง เช่น ในกรณีที่เป็น โรคคอตีบ เนื่องจาก ติดเชื้อ Corynebacterium diphtheriae เห็นเป็นแผ่นหนา สีเทา ปะติดอยู่บนผนัง ทางเดินหายใจส่วนต้น ทำให้หายใจลำบาก เป็นต้น
7.Pseudomembranous inflammation เป็นการอักเสบ ที่เกิดการตายของ เยื่อบุผิวของอวัยวะ ที่เป็นท่อกลวงเช่น ทางเดินอาหาร เยื่อบุผิวผนังลำไส้ตาย และ หลุดร่อน ปะปนกับ เยื่อไฟบริน และเซลล์อักเสบ กลายเป็น แผ่น ปกคลุม อยู่บน แผล ทับอีกชั้นหนึ่ง เช่น Psuedomembranous colitis เป็นต้น
8.Necrotizing (gangrenous) inflammation เป็นการอักเสบ ที่เกิดจากพยาธิสภาพต่อ หลอดเลือด เกิดการอุดตัน ทำให้ขาดเลือด ไปหล่อเลี้ยงจน เนื้อเยื่อของอวัยวะนั้นๆตาย เกิดการอักเสบลุกลาม ร่วมกับ การเน่าเปลื่อยจาก จุลชีพ ทำให้อวัยวะ มีสีดำคล้ำ เช่น ไส้ติ่งอักเสบสีดำคล้ำ (acute gangrenous appendicitis) ลำไส้เน่าอักเสบ (acute necrotizing enterocolitis) นิ้วมือ นิ้วเท้าตายเน่า ที่เรียกว่า gangrene เช่นในผู้ป่วยที่เป็น เบาหวาน เป็นต้น
9.Ulcer (แผล) เป็นการอักเสบ ทำให ้เกิดการตาย ของเนื้อเยื่อ ตรงบริเวณ เยื่อบุผิว ของอวัยวะ ทำให ้เนื้อเยื่อ บริเวณที่ตาย หลุดออกไป เกิดเป็นแผลขึ้น เช่น แผลในกระเพาะอาหาร (gastric ulcer) แผลในลำไส้เล็ก(duodenal ulcer) แผลในลำไส้ใหญ่ แผลที่ผิวหนัง เป็นต้น
10.Granulomatous inflammation เป็นการอักเสบเรื้อรัง ชนิดหนึ่ง บริเวณที่ อักเสบพบเซลล์ชนิด epitheloid cells หรือ histiocytes และ macrophages ร่วมกับ fibroblastic tissue และ เซลล์อักเสบ lymphocytes เซลล์เหล่านี้ มักอยู่ รวมกัน เป็นกลุ่มก้อน เรียกว่า granuloma บางรายพบ เนื้อตาย ตรงกลางก้อน ชนิด coagulation necrosis (สำหรับที่พบใน granuloma เรียกว่า caseous necrosis เนื่องจากเศษเนื้อตาย ที่พบ มีลักษณะ ข้นเหลว คล้าย ดินเหนียวสีเหลือง หรือเนยเหลว) เช่น จากการ ติดเชื้อ วัณโรค (Tuberculosis) โรคเรื้อน โรคติดเชื้อรา หรือ ไวรัส บางชนิด เป็นต้น